บอกลาขนน้อง เพิ่มความมั่นใจ สะอาด ปลอดภัย ดียังไงต้องลอง!
ใส่บิกินี่ทั้งที ต้องไม่มีโป๊ะ!
อย่าให้เรื่องของขนจิมิ มาทำให้เราต้องจิ๊จ๊ะ จนหมดความมั่นใจ
สาวๆ หลายคนสลัดผ้า อวดหุ่นสวย แต่มาตกม้าตาย ต้องมาอาย เพราะเจ้าขนจิมิแพลมออกมาทักทายสายตาชาวบ้าน เรื่องนี้ต้องเช็กให้ดี อย่าให้พลาดนะคะสาวๆ ความกังวลเรื่องพวกนี้จะหมดไป! เว้าสูง แหวกข้าง จะชุดไหน แต่กำจัดแล้วจะดีจริงไหม มีวิธีไหนบ้าง ลองมาดูกันเลย เพิ่มความมั่นใจ ด้วยการกำจัดขนน้องสาวแบบถาวร แต่กำจัดแล้วจะดีจริงไหม มีวิธีไหนบ้าง ลองมาดูกันเลย
5 ความจริงต้องรู้ ข้อดีของการกำจัดขนจิมิ

-
ช่วยเพิ่มความมั่นใจการแต่งตัว ทั้งการสวมใส่ชุดว่ายน้ำ บิกินี่ตัวโปรด รวมถึงชุดชั้นในดีไซน์สวยๆ ที่บางทีออกแบบมาเพิ่มความเซ็กซี่ให้กับผู้หญิง ซึ่งคุณผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบที่คุณผู้หญิงของเรา แต่งตัวสวยๆ เซ็กซี่ แต่เบื้องล่างนั้นดูแล้วสะอาดตา ขอบอกเลยว่าช่วยเพิ่มอารมณ์กระชับความสัมพันธ์กันได้อีกด้วย
-
นอกจากเรื่องของบุคลิกภาพแล้ว การกำจัดขนยังช่วยในเรื่องของสุขอนามัย ความสะอาด เมื่อปริมาณเส้นขนลดลง ก็ง่ายต่อการดูแล ทำความสะอาดมาก เรียกได้ว่าทำความสะอาดกันได้ทุกซอกทุกมุมกันเลยทีเดียว
-
ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ของน้องสาว ถึงแม้จะเป็นขนในที่ลับ แต่ก็ส่งกลิ่นรบกวนใจจนหมดความมั่นใจได้เหมือนกัน ซึ่งการกำจัดขนนั้นก็จะช่วยลดกลิ่นบริเวณจุดซ่อนเร้นได้
-
ลดความอับชื้นในร่มผ้า หากเรามีปริมาณขนจิมิที่เยอะเกินไป เมื่อเวลาเข้าห้องน้ำ เช็ดทำความสะอาดแล้ว อาจจะยังไม่แห้งในทันที ซึ่งตรงนี้ส่งผลให้เกิดความอับชื้น และเกิดกลิ่นตามมาได้ แต่ถ้าเรากำจัดขนออกแล้ว ก็จะทำให้บริเวณแห้งเร็วขึ้น ไม่สะสมความชื้น กลิ่นอับก็ไม่เกิดตามมา
-
ลดความคันได้ บางคนที่มีขนเยอะ ขนหนา แน่นอนว่าหากเกิดการเสียดสีจากการส่วมใส่ชุดชั้นในแล้ว อาจทำให้เกิดความคันตามมา ยิ่งในช่วงเวลาที่เป็นประจำเดือน ทั้งความอับชื้น กลิ่น ความคัน ที่เกิดจากความรุงรังของเส้นขนก็จะตามมา หากเรากำจัดขนออกด้วยวิธีการเลเซอร์ จะช่วยลดปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมาได้ (ขอย้ำว่า ต้องกำจัดขนด้วยการเลเซอร์เท่านั้นนะคะ หากใช้วิธีอื่น อาจเกิดปัญหาขนคุด ขนแข็งเป็นตอ จะยิ่งทวีความคันและระคายเคืองน้องสาวอย่างแน่นอน)
การกำจัดขนจิมิ มีวิธีไหนบ้าง?

-
การโกนขน วิธีนี้เป็นวิธียอดนิยมของสาวๆ หลายคน เพราะเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ราคาไม่แพง ซึ่งการโกนก็มีอุปกรณ์ให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบมีดโกน เครื่องโกนขนไฟฟ้า มูสหรือครีมที่ช่วยในการกำจัดขน แต่การกำจัดขนด้วยวิธีนี้ก็มีข้อเสียอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เช่น การใช้มีดโกน หากทำโดยไม่ระมัดระวังอาจทำให้เกิดการบาดโดนเนื้อได้ รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ช่วยในการกำจัดขนด้วยการโกนง่ายขึ้นนั้น อาจจะมีส่วนผสมของเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เกิดปัญหาการแพ้ ผิวอักเสบได้ เพราะผิวบริเวณจุดนั้นมีความอ่อนโยน และที่สำคัญการโกนไม่สามารถกำจัดได้อย่างถาวร และยิ่งโกนยิ่งทำให้เส้นขนเกิดใหม่ได้เร็วขึ้นอีกด้วย
-
การถอนขน วิธีเบสิกที่สามารถทำได้เองที่บ้าน ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เยอะ เพียงแต่แหนบหรือคีม ก็สามารถถอนได้แล้ว แต่วิธีนี้ขอบอกเลยว่า จะต้องทนกับความเจ็บสักนิด เพราะจะสามารถถอนได้จำนวนน้อย ต้องทำหลายครั้ง ซึ่งการทำบ่อยๆ ซ้ำๆ ก็จะทำให้ผิวหนังบริเวณโดยรอบ เกิดอาการบวม ช้ำ อักเสบ และระคายเคืองได้
-
การแว๊กซ์ขน อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับนิยมไม่แพ้กัน การแว๊กซ์ขนนั้น มีให้เลือกทั้งแบบร้อนและแบบเย็น โดยจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการกำจัดขน ทาทิ้งแล้วจึงดึงออก ปริมาณขนจะหลุดออกได้เยอะกว่าการถอน และจะรู้สึกได้ถึงความเจ็บจากการดึงเส้นขนให้หลุดออกมา วิธีการแว๊กซ์ขนนี้ เป็นแค่เพียงการดึงเส้นขนออกจากผิวหนัง ไม่สามารถกำจัดได้อย่างถาวร ก็จะมีการเกิดขึ้นใหม่ซ้ำอีก ต้องค่อยทำอยู่บ่อยๆ และแรงจากการดึงอาจจะทำให้ผิวเกิดระคายเคือง อักเสบได้เช่นกัน
-
การใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดขน ตอนนี้ผลิตภัณฑ์กำจัดขนมีออกมาจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเจล มูส หรือครีม เพียงแค่ทาทิ้งไว้แล้วเช็ดออก ก็ช่วยให้เส้นขน หลุดออกมาได้แล้ว แต่วิธีนี้ก็จะมีความเสี่ยงต่อผิวหนังอย่างมาก เพราะผิวหนังบริเวณนี้จะมีความอ่อนโยนเป็นพิเศษ หากโดนสารเคมี หรือเกิดการแพ้ อาจจะะทำให้ผิวเกิดอาการแสบ แดง ผื่นคันได้ และไม่ใช่วิธีการกำจัดขนแบบถาวร จะต้องทำซ้ำบ่อยๆ ยิ่งผิวโดนสารเคมีบ่อยๆ อาจส่งผลทำให้ผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นเกิดการคล้ำเสียได้
-
การเลเซอร์กำจัดขน วิธีนี้ถือเป็นวิธีการกำจัดขนที่ดีที่สุด ปลอดภัย เห็นผลได้จริง และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับเนื้อเยื่อผิว ซึ่งในปัจจุบันการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ที่ได้รับความนิยม คือ การกำจัดขนด้วย IPL และ Gentle YAG
-
การกำจัดขนด้วย IPL (Intense Pulsed Light) การกำจัดขนด้วยวิธีนี้ มีข้อดีที่ราคาไม่สูงมาก แต่ต้องทำซ้ำหลายครั้ง และไม่เหมาะสมกับผิวที่มีความคล้ำ และอาจก่อให้เกิดการเบิร์นของผิวหนังได้
-
ส่วน Gentle YAG (Yttrium Aluminum Garnet) เลเซอร์กำจัดขนชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก สามารถจำกัดขนได้ลึกถึงระดับรากขน ลดการเกิดใหม่ของเส้นขนที่จะเบาบางลง และไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งการทำเลเซอร์ Gemtle YAG นี้ สามารถทำได้กับทุกสภาพผิว และทุกเฉดสีผิว ไม่ก่อให้เกิดรอยไหม้ รอยดำ และหลังทำไม่มีอาการเบิร์นของผิวหนัง ที่สำคัญไม่เป็นอันตรายต่อผิว
ทำไมต้องกำจัดขนด้วย Gentle YAG Laser

เพราะการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ Gentle YAG เป็นนวัตกรรมการกำจัดขนที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุด สามารถกำจัดได้ลึกถึงระดับรากขน โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อผิว โดยไม่ทำให้ผิวเกิดการไหม้หรือเบิร์น ซึ่งเส้นขนจะหลุดออกมาทั้งราก และจะช่วยลดการเกิดขนขึ้นใหม่ ให้เบาบางลง จนกระทั่งไม่มีการเกิดใหม่ของเส้นขน สามารถทำได้ทุกสีผิว และที่สำคัญ Gentle YAG Laser ถือเป็นเลเซอร์กำจัดขนที่มีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย โดยได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยา (FDA) ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์ขนน้อง

-
งดการโกน ถอน หรือ แว๊กซ์ขนบริเวณนั้นก่อนการมาทำเลเซอร์
-
หากมีความยาวและหนาเกินไป จะต้องทำการโกนออกก่อนการทำเลเซอร์ 1-2 วัน
-
หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในการผลัดเซลล์ผิว
-
งดการขัดผิว สครับผิวในบริเวณจุดซ่อนเร้น เพื่อไม่ทำผิวเกิดการระคายเคือง
การดูแลหลังทำเลเซอร์กำจัดขน

-
งดการถอนหรือแว๊กซ์หลังทำเลเซอร์
-
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม
-
งดใช้แป้งหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อไม่ให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการอักเสบ
-
งดการว่ายน้ำ หรือเล่นน้ำทะเล 2-3 วัน
-
งดการใช้ความร้อนกับร่างกาย เช่น การซาวน่า หรือ แม้แต่การอาบน้ำอุ่น เพราะอาจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้
-
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ที่ทำให้เสียเหงื่อเยอะๆ หลังทำเลเซอร์กำจัดขน
-
หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อลดการเสียดสีและอาจทำให้เกิดการอักเสบได้
-
สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ แต่หากมีอาการแสบหรือระคายเคือง รีบปรึกษาแพทย์ทันที
-
หลังทำเส้นขนจะหลุดร่วง แต่ยังมีการเกิดขึ้นใหม่ของเส้นขน แต่จะหลุดร่วงออกไปเองอย่างช้าๆ หลังจากการทำ
รวมคำถามยอดฮิต เลเซอร์กำจัดขนจิมิ ที่พบบ่อย
Q:เลเซอร์ขนน้องเจ็บไหม? (Brazilian Laser)
A:ก่อนทำ เจ้าหน้าจะมีการแปะยาชา และมีการเป่าลมประคบเย็น จะมีความรู้สึกตึงๆ จี๊ดๆ เล็กน้อย แต่ทั้งนี้ความรู้สึกต่อการรับรู้จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
Q:ทำเลเซอร์ขนแล้ว ขนจะยังขึ้นอีกไหม?
A:การทำเลเซอร์ขนในครั้งแรก จะหลุดร่วงไปและขนที่เกิดขึ้นใหม่จะขึ้นช้าและมีปริมาณเบาบางลง จนกระทั่งไม่มีการเกิดใหม่ของเส้นขน แนะนำให้ทำต่อเนื่องทุกเดือนในช่วงแรก
Q:เลเซอร์ขนต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?
A:สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ในครั้งแรกที่ทำ เส้นขนที่งอกใหม่จะเบาบาลง สำหรับบางท่านอาจจะใช้ระยะเวลาในการทำ 3-4 ครั้ง ก็สามารถกำจัดเส้นขนได้แล้ว *แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นขนของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ
Q:เลเซอร์กับแว๊กซ์แบบไหนดีกว่ากัน?
A:การแว๊กซ์ เป็นการกำจัดขนแค่เพียงชั่วคราว ด้วยการดึงเส้นขนให้หลุดออกมา ไม่ได้กำจัดตั้งแต่รากขน และมีความรู้สึกเจ็บทั้งตอนขณะทำและหลังทำ เพราะเป็นการดึงเส้นขนออกจากผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้ผิวโดยรอบเกิดการระคายเคืองได้ แต่การทำเลเซอร์ขนนั้น เป็นการกำจัดขนแบบถาวร กำจัดลงถึงรากขน ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังบริเวณโดยรอบ เส้นขนที่ขึ้นใหม่ จะไม่เป็นตอ ไม่คัน ไม่เกิดอาการขนคุด เมื่อทำอย่างต่อเนื่อง ก็จะไม่มีปัญหาขนกวนใจ
Q:ความรู้สึกหลังทำเลเซอร์ขนเป็นยังไงบ้าง?
A:หลังทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมหรืองดการออกกำลังกายหลังทำ 1 วัน
Q:ข้อควรระวังในการทำเลเซอร์กำจัดขน
A:ห้ามถอนหรือแว๊กซ์ก่อนมาทำเลเซอร์ เพราะอาจจะทำให้ผิวโดยรอบโดยรบกวนและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย หลังทำเลเซอร์กำจัดขนแล้ว ควรปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือการออกกำลังกาย ว่ายน้ำ (ทั้งสระน้ำปกติและทะเล) หลีกเลี่ยงการกิจกรรมความร้อน ทั้งการซาวน่า หรืออาบน้ำอุ่น ควรส่วมเสื้อผ้าที่มีความโปร่งสบาย
คลายทุกข้อสงสัยกับเรื่องขนในที่ลับ ที่จะไม่ทำให้เราต้องอับอายอีกต่อไป การกำจัดขนจิมิด้วยเลเซอร์ Gentle Yag จะให้เพิ่มความมั่นใจให้สาวๆ แต่ขอบอกว่าคุณผู้ชายก็ทำได้!
สำหรับผู้ที่สนใจโปรโมชั่น คลิกสอบถามเพิ่มเติมทาง FB และ Line@ ได้เลยค่ะ
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ Gentle Yag Laser เพิ่มเติมได้ที่นี่


