เสริมจมูกแบบเปิด หรือการศัลยกรรม เสริมจมูกโอเพ่น คือ-การใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบ Open Rhinoplasty เป็นเทคนิคที่นิยมในต่างประเทศเป็นอย่างมาก เพราะศัลยแพทย์สามารถปรับโครงสร้างจมูกทุกรูปแบบให้เป็นไปในแบบที่ต้องการได้ โดยศัลยแพทย์จะผ่าตัดเปิดแผลที่ใต้ฐานจมูกร่วมกับแผลในรูจมูก 2 ข้างเพื่อแก้ไขโครงสร้างจมูกภายใน ไม่ว่าจะเป็นการปรับฐานกระดูก ตอกฐานจมูก ปรับลดขนาดฐานจมูกให้เล็กลง แก้ไขจมูกชมพู่ ตะไบกระดูก เหลาฮัมพ์ ตัดปีกจมูก หรือแม้กระทั่งแก้ไขจัดตำแหน่งผนังกั้นกลางจมูกให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมรวมถึงยืดผนังกั้นปลายจมูกให้ยาวขึ้นได้ด้วยเช่นกัน เหมาะกับคนที่มีปัญหา เนื้อจมูกน้อย จมูกสั้น ปลายจมูกบาง คนที่เคยเสริมจมูกมาแล้วและจมูกมีปัญหา จมูกเบี้ยว ซิลิโคนลอย ปลายจมูกแดงอักเสบ จมูกทะลุ จำเป็นต้องผ่าตัด แก้จมูก สามารถเข้ามาปรึกษาศัลยแพทย์โรงพยาบาลศัลยกรรม-SLC ในการวิเคราะห์ปัญหาและออกแบบทรงจมูกใหม่ เพื่อให้ได้ทรงจมูกที่สวยงามในแบบที่คุณถูกใจมากที่สุด ยืนยันด้วยเสียงของลูกค้าจริงผ่าน Reality Live และ รีวิวเสริมจมูก จากดาราและเซเลบริตี้อีกมากมาย
ข้อดีของการเสริมจมูกเทคนิค Open Rhinoplasty : เสริมจมูกแบบเปิด
เทคนิคการ เสริมจมูกโอเพ่น มีข้อดีคือ ในขณะผ่าตัดศัลยแพทย์จะสามารถมองเห็นปัญหาและโครงสร้างจมูกได้ทั้งหมด ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาจมูกได้ตรงจุด แก้ไขจมูกสั้นให้ยาว แก้ไขจมูกคดให้ตรง แก้ไขจมูกใหญ่ให้เล็กเรียวได้ สามารถผ่าตัดปรับแต่งจมูกได้มากกว่าการเสริมจมูกเทคนิค Closed การทำจมูกแบบโอเพ่นจึงเหมาะสำหรับเหมาะสำหรับจมูกทุกแบบ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกเยอะๆ ต้องทำการปรับโครงสร้างจมูกเพื่อแก้จมูกให้ดีขึ้น ส่วนใหญ่จะใช้กระดูกอ่อนหลังหู หรือ กระดูกอ่อนซี่โครง นำมาเหลาและเสริมความโด่งแทนการใช้ซิลิโคน ซึ่งกระดูกอ่อนหลังหูและกระดูกซี่โครงจะมีความปลอดภัยกับร่างกาย เกิดผลแทรกซ้อนน้อย ไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้านกับร่างกาย ช่วยเพิ่มความหนาบริเวณปลายจมูกในผู้ที่มีปัญหา ปลายจมูกบาง เนื้อจมูกน้อย
จุดเด่นของการ เสริมจมูกแบบเปิด
- สำหรับผู้ที่มีปัญหาจมูกผิดรูปมาก วิธีนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและครบถ้วน
- การตกแต่งปลายจมูกให้โด่ง เชิ่ด จะดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากการทำจมูกแบบเปิดจะใช้เทคนิคการนำอวัยวะบางส่วนของร่างกายมาตกแต่งเพิ่มเติม เช่น การนำกระดูกอ่อนหลังหูมาเติมช่วงปลายจมูกเพื่อให้จมูกยาวขึ้น หรือรองปลายจมูกแก้ไขปัญหา ปลายจมูกบาง เป็นต้น

ใครบ้างควรเสริมจมูกแบบโอเพ่น
- ผู้ที่จมูกไม่สมส่วน จมูกสั้น ฐานกระดูกจมูกใหญ่ ฐานจมูกเบี้ยว จมูกคด จมูกแบน จมูกมีฮัมพ์ รูจมูกเชิ่ด เนื้อจมูกน้อย ปลายจมูกบาง
- ผู้ที่เสริมจมูกเทคนิค Closed แล้วไม่ตอบโจทย์
- ผู้ที่เคยเสริมจมูกแบบโอเพ่นแล้วต้องการแก้ไข
- ผู้ที่ต้องการให้ทรงจมูกดูเป็นธรรมชาติ
อยากทำจมูก แก้จมูก ไม่ต้องลังเล ทำจมูกที่ไหนดี ? มาที่ SLC Hospital ครั้งเดียวจบ
3 เทคนิค เสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) ตอบโจทย์ทุกปัญหาจมูก
1. เทคนิคเสริมจมูก Open โดยใช้ซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหู
การเสริมจมูก Open โดยใช้ซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหู เป็นการเสริมจมูกด้วยการใช้ซิลิโคนทางการแพทย์เสริมความสูงบริเวณสันจมูกและใช้กระดูกอ่อนหลังหูมาเย็บรองปลายซิลิโคน ซึ่งกระดูกอ่อนหลังหูมีข้อดีคือกระดูกมีความแข็งแรงกว่าเนื้อเยื่อ สามารถรองรับความตึงได้ค่อนข้างมาก มีความปลอดภัยกับร่างกาย เกิดผลแทรกซ้อนน้อยและไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้านกับร่างกาย เทคนิคนี้เหมาะมากกับคนที่ปลายจมูกบางและคนที่ต้องการให้ปลายจมูกพุ่งชัด โดยศัลยแพทย์จะใช้กระดูกอ่อนหลังหูรองปลายจมูกเพื่อป้องกันการทะลุในอนาคต
2. เทคนิคเสริมจมูก Open โดยใช้ซิลิโคน ร่วมกับกระดูกซี่โครง
การเสริมจมูก Open โดยใช้ซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหู ศัลยแพทย์จะเสริมสันจมูกให้โด่งโดยใช้ซิลิโคน จากนั้นจะใช้กระดูกอ่อนซี่โครงนำมาต่อบริเวณปลายจมูก ซึ่งกระดูกอ่อนซี่โครงมีข้อดีคือกระดูกมีความแข็งแรงกว่ากระดูกอ่อนหลังหูและเข้ากับร่างกายได้ดี มีความปลอดภัยกับร่างกาย ลดการเกิดพังผืดในผู้ที่เนื้อบริเวณปลายจมูกบาง กระดูกอ่อนซี่โครงจะช่วยป้องกันการหดรั้งของเนื้อบริเวณปลายจมูกได้ดี เหมาะกับผู้ที่ปลายจมูกบาง ปลายจมูกตึงรั้งผิดรูป คนที่ไม่ต้องการใช้กระดูกหลังหู รวมถึงคนที่มีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้กระดูกอ่อนซี่โครงเพื่อนำมาเสริมทั้งจมูกทั้งหมด
3. เทคนิคเสริมจมูก Open ด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงจากร่างกายตัวเอง 100% ไม่ใช้ซิลิโคน
กระดูกอ่อนซี่โครงทั้งหมดจากร่างกายตัวเอง 100% ในการเสริมจมูกศัลยแพทย์จะผ่าตัดกระดูกอ่อนซี่โครงจากร่างกายของผู้รับบริการมาใช้เสริมจมูกความโด่งพุ่งของจมูก เหมาะกับผู้ที่แพ้ซิลิโคน และต้องการเสริมจมูกโดยไม่ใช้สิ่งแปลกปลอม ซึ่งมีข้อดีคือ ร่างกายจะไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน ช่วยลดปัญหาการอักเสบ การติดเชื้อ ลดการเกิดพังผืด ให้ผลลัพธ์ทรงจมูกที่สวยงามดูธรรมชาติและป้องกันการทะลุได้ดี โดยกระดูกอ่อนซี่โครงส่วนที่นำมาใช้นั้นเป็นส่วนที่ร่างกายใช้งานน้อยที่สุดจึงไม่มีผลกระทบกับโครงสร้างร่างกาย สำหรับผู้ที่ศัลยแพทย์พิจารณาแล้วว่าไม่สามารถใช้ซี่โครงตัวเองได้ ศัลยแพทย์จะแนะนำให้ใช้กระดูกซี่โครงเทียม หรือวัสดุอื่น เช่น TnR Mesh แทนในการเสริมจมูก
กระดูกซี่โครงเทียม คือ วัสดุเสริมจมูกที่นำมาผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อมีลักษณะและคุณสมบัติคล้ายกับกระดูกอ่อนซี่โครงจากร่างกาย ช่วยลดปัญหาการอักเสบ ลดการเกิดพังผืด เหมาะกับผู้ที่แพ้ซิลิโคนและมีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้กระดูกอ่อนซี่โครงจากร่างกายตัวเอง
TnR Mesh หรือ เนื้อเยื่อเทียม คือ วัสดุสังเคราะห์แทนซิลิโคน นำมาผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ มีลักษณะนิ่ม และมีรูพรุนคล้ายฟองน้ำ โดยส่วนมากนิยมใช้ในการรองปลายจมูก หรือในบางท่านอาจใช้ TnR Mesh เสริมบริเวณสันจมูกด้วยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและการประเมินของศัลยแพทย์
เสริมจมูกแบบเปิดร่วมกับการปรับโครงสร้างจมูก ตอบโจทย์ปัญหาจมูกที่ต่างกัน
การปรับโครงสร้างจมูกทำได้หลายวิธี ได้แก่ การยืดผนังกั้นกลางจมูกเพื่อให้บริเวณปลายจมูกสูงดูเรียวเล็กสมดุลกับสันจมูก, การตอกฐานจมูกเพื่อลดขนาดของกระดูกฐานจมูก แก้ไขจมูกใหญ่ให้เล็กเรียวลง, การตะไบฐานจมูกลดความสูงของกระดูกฮัมพ์ทำให้ฐานจมูกเรียบขึ้น และการผ่าตัดแก้ไขทางเดินหายใจในผู้ที่มีฐานจมูกคดเอียง
1. แก้ไขจมูกสั้นให้ยาวปรับปลายจมูกให้ดูพุ่ง ด้วยการยืดกระดูกแกนกลางจมูกและการเย็บผนังกั้นจมูก
- ต่อแกนจมูกให้ยาวขึ้นด้วยการปรับตำแหน่งกระดูกอ่อนแกนกลางจมูก เหมาะกับคนที่มีปลายจมูกสั้นขาดความพุ่ง ใหญ่ ปลายจมูกกว้าง ศัลยแพทย์จะทำการปรับตำแหน่งของกระดูกอ่อนแกนกลางจมูกให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม ช่วยต่อแกนจมูกให้ยาวขึ้น ทำให้ปลายจมูกโด่งสูงดูพุ่งขึ้นสมดุลกับสันจมูก โดยศัลยแพทย์นิยมปรับตำแหน่งกระดูกอ่อนแกนกลางจมูกร่วมกับการเย็บกระดูกอ่อนปลายจมูก บางท่านอาจปรับตำแหน่งกระดูกอ่อนแกนกลางจมูกเพียงอย่างเดียวก็ได้ หรือในบางท่านอาจไม่จำเป็นต้องทำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินของศัลยแพทย์
- การเย็บกระดูกอ่อนปลายจมูก หรือ เย็บอินเตอร์โดม เหมาะกับคนที่มีปลายจมูกใหญ่ ปลายจมูกกว้าง ศัลยแพทย์จะทำการเย็บกระดูกอ่อนปลายจมูกทั้งสองข้างที่ห่างกันให้ชิดกันมากขึ้น ช่วยให้ปลายจมูกยกขึ้นและดูเรียวเล็ก รูปทรงของรูจมูกดูเป็นทรงรียาวมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินของศัลยแพทย์
2. การตอกฐานจมูก แก้ไขจมูกใหญ่ให้เรียวเล็ก
ตอกฐานจมูก หรือการเหลาฐานจมูก คือการปรับลดกระดูกส่วนเกิน ลดความนูนของฐานกระดูกบริเวณสันจมูกที่กว้างให้แคบขึ้น โดยศัลยแพทย์จะใช้เครื่องมือทางการแพทย์เข้าไปตอกฐานกระดูกบริเวณสันจมูก เหมาะกับคนที่ฐานจมูกกว้าง ฐานกระดูกบริเวณสันจมูกนูนผิดรูป รวมถึงคนที่ต้องการให้ทรงจมูกดูเรียวเล็ก ซึ่งการตอกฐานจมูกเป็นนำกระดูกส่วนเกินออกไปไม่สามารถทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมดังนั้นจึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ หากตอกฐานจมูกมากเกินไปส่งผลให้ฐานจมูกและโพรงจมูกผิดรูปจนยากต่อการแก้ไข
รีวิวเสริมจมูก ร่วมกับการตอกฐานจมูกและตะไบฮัมพ์
3. การเหลาหรือตะไบฐาน ลดความสูงของฮัมพ์ (Hump) ทำให้สันจมูกเรียบขึ้น
ตะไบฐาน, เหลาฮัมพ์ หรือการตัดฮัมพ์ ศัลยแพทย์จะใช้เครื่องมือทางการแพทย์มาฝนบริเวณฮัมพ์ (Hump) หรือกระดูกที่นูนขึ้นมากลางจมูก เพื่อทำให้กระดูกฐานจมุกเรียบ ลดความสูงของกระดูกฮัมพ์ลง ทำให้สามารถวางวัสดุเสริมจมูกได้แนบสนิทไปกับกระดูกฐานจมูก ซึ่งการตะไบฮัมพ์เป็นการกรอหรือฝนกระดูกที่นูนออกไปไม่สามารถทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมดังนั้นจึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ หากตะไบฮัมพ์ไม่เรียบก็ส่งผลให้ซิลิโคนหรือวัสดุเสริมจมูกไม่แนบสนิทกับฐานจมูกจนเกิดการเอียงได้ หากตะไบฐานจมูกมากเกินไปทำให้เยื่อหุ้มกระดูกถูกทำลายจนเยื่อหุ้มกระดูกไม่สามารถยึดเกาะวัสดุเสริมจมูกได้ นอกจากนี้ยังทำให้ฐานจมูกเดิมเสียหายและสันจมูกยุบตัวจนส่งผลให้ทางเดินหายใจแคบลงจากการตะไบฮัมพ์มากเกินไป
*ฮัมพ์คือกระดูกนูนบริเวณกลางจมูก มีลักษณะโค้งนูนคล้ายกับหลังอูฐ*
4. การแก้ไขทางเดินหายใจ แก้ไขจมูกคดให้ตรง
การแก้ไขทางเดินหายใจในผู้ที่มีฐานจมูกคด แกนจมูกโค้งหรือเบี้ยวเอียง ในการเสริมจมูกนั้นศัลยแพทย์จะต้องปรับแต่งโครงสร้างภายในจมูกใหม่ทั้งหมดให้ฐานและแกนจมูกอยู่ในรูปทรงที่เป็นปกติเป็นทรงตรงหรือใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด เพราะในผู้ที่มีฐานจมูกคดเบี้ยวเอียงหากเสริมจมูกโดยไม่ปรับแต่งโครงสร้างในจมูกก่อนก็ทำให้จมูกมีลักษณะเบี้ยวเอียงตามแกนจมูก ดังนั้นจึงต้องทำการปรับฐานจมูกให้มีความเหมาะสมก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการเสริมจมูก ซึ่งการผ่าตัดแก้ไขทางเดินหายใจนั้นจะต้องอาศัยความชำนาญของศัลยแพทย์เพราะการแก้ไขทางเดินหายใจไม่ใช่แพทย์ทุกคนจะทำได้ ศัลยแพทย์จะต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโครงสร้างจมูกและมีประสบการณ์สูงในการผ่าตัดปรับโครงสร้างจมูก
รูจมูกใหญ่ ปีกจมูกกว้าง ปีกจมูกบาน แก้ไขได้

ตัดปีกจมูก ปรับสัดส่วนจมูกให้บาลานซ์
รูจมูกกว้าง ปีกจมูกใหญ่ จมูกชมพู่ สามารถตัดปีกจมูกร่วมกับการเสริมจมูกได้ เพื่อให้ขนาดรูจมูกเล็กลง ขนาดของจมูกได้สัดส่วนที่สมดุลรับกับใบหน้ามากขึ้น สามารถทำได้ 2 แบบขึ้นอยู่กับการประเมินของศัลยแพทย์
- การตัดปีกจมูกจมูกด้านใน เพื่อเก็บยกปีกจมูก เหมาะกับ ผู้ที่มีรูจมูกกว้าง และปีกจมูกห้อย ซึ่งรอยแผลจะซ่อนไว้ด้านในของปีกจมูก อยู่ในจุดที่มองเห็นได้ยาก
- ตัดปีกจมูก จากด้านนอก เหมาะกับ ผู้ที่รูจมูกไม่กว้างมาก ปีกจมูกไม่ห้อย แต่มีปีกจมูกหนา โดยรอยแผลจะซ่อนไว้ด้านในของปีกจมูก ซึ่งมองเห็นได้ยาก
รีวิวการเสริมจมูกร่วมกับการ ตัดปีกจมูก


ขั้นตอนการผ่าตัด เสริมจมูกแบบเปิด
- ก่อนผ่าตัด ศัลยแพทย์ตรวจวิเคราะห์โครงสร้างจมูก และพิจารณารูปทรงจมูกที่เหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคคล
- วิสัญญีแพทย์ทำการดมยาสลบแก่ผู้รับบริการ
- ผ่าตัดเปิดแผลบริเวณฐานจมูก ศัลยแพทย์ลงมือแก้ไขและปรับโครงสร้างจมูกให้รับกับใบหน้า
- เย็บปิดแผลอย่างประณีต
- ประคบเย็นบริเวณจมูก 10-15 นาที
- ผู้รับบริการนอนพักฟื้นที่ห้องพักฟื้นโรงพยาบาลศัลยกรรม SLC 1 คืน เพื่อดูอาการ
ระยะเวลาในการผ่าตัด : 2-4 ชั่วโมง

อุ่นใจขณะหลับ ตื่นมาปุ๊บจมูกสวยปั๊บ
เนื่องจากการเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) เป็นการผ่าตัดด้วยวิธีดมยาสลบ ซึ่งในแต่ละเคสจะใช้เวลาในการผ่าตัดตั้งแต่ 2-5 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละบุคคล ในการทำศัลยกรรมไม่ว่าจะเสริมจมูกหรือทำศัลยกรรมอะไรก็ตามที่ SLC Hospital หากต้องมีการดมยาสลบ ที่นี่เราดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์เฉพาะทาง ตรวจสอบประวัติคุณหมอดมยาสลบได้ที่นี่เลย ซึ่งนอกจากวิสัญญีแพทย์จะทำให้หน้าที่ดมยาสลบแล้วก็จะอยู่ดูแลขณะที่ผ่าตัดตลอดเวลาเลย เพื่อความปลอดภัยขั้นสุดในขณะผ่าตัด เพราะชาวเราสาวยุค 2022 หากเลือกทำสวยแล้วต้องไม่มีคำว่าเสี่ยงค่ะซิส
สวยไม่เสี่ยง มั่นใจได้ วิสัญญีแพทย์ดมยาสลบแบบ 1 ต่อ 1
เนื่องจากการเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) เป็นการผ่าตัดด้วยวิธีดมยาสลบซึ่งจะใช้เวลาในการผ่าตัดตั้งแต่ 2-5 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละบุคคล เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุดในขณะดมยาสลบ จำเป็นต้องมีวิสัญญีแพทย์เป็นผู้ดมยาสลบและวิสัญญีแพทย์จะอยู่ดูแลผู้รับบริการตลอดการผ่าตัด เพื่อความปลอดภัยขณะเข้ารับบริการอย่างสูงสุด ก่อนทำศัลยกรรมทุกประเภทที่ต้องมีการดมยาสลบนั้นมีข้อกำหนดและข้อควรปฏิบัติใดบ้างที่ผู้รับบริการต้องเตรียมความพร้อม รวมถึงข้อห้ามอะไรบ้างที่ต้องเลี่ยงและหยุดทำก่อนเข้าการผ่าตัดศัลยกรรมแบบดมยาสลบ ดูวิธีเตรียมตัวและข้อปฏิบัติที่ควรทำตามอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของวิสัญญีแพทย์ ได้ที่บทความ หลับแล้วตื่นฟื้นมาสวย ก่อนศัลยกรรมที่ต้องดมยาสลบต้องเตรียมตัวยังไง
รีวิวเสริมจมูก เทคนิค Open Rhinoplasty : เสริมจมูกแบบเปิด
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
เตรียมตัวก่อนศัลยกรรม เสริมจมูกแบบเปิด
- ก่อนทำศัลยกรรมผู้รับบริการจะต้องแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว ประวัติการผ่าตัด ประวัติการแพ้ยา รวมถึงอาหารเสริมที่รับประทาน ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องและมีโรคประจำตัว จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเรื่องแผลหายยาก เสี่ยงต่อการติดเชื้อ จำเป็นต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้งเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
- งดยาในกลุ่มที่จะมีผลต่อการหยุดไหลของเลือด เช่น งดแอสไพริน ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2-สัปดาห์
- งดวิตามิน อาหารเสริมทุกชนิด เช่น-วิตามินอี , น้ำมันตับปลา , เมล็ดองุ่น , ใบแปะก๊วย , โสม ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 1-เดือน
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพราะสารที่อยู่ในบุหรี่จะทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล และมีผลทำให้เลือดที่จะมาหล่อเลี้ยงบริเวณผ่าตัดลดลง มีโอกาสทำให้ผิวหนังที่ผ่าตัดขาดเลือด หายช้าและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 1 – 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด และ-1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- กรณีที่ท่านมีอาการเจ็บป่วยปัจจุบัน เช่น-มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก เสมหะ ท้องเสีย มีแผลติดเชื้อ หรือเป็นประจำเดือน ฯลฯ กรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนวันผ่าตัด อย่างน้อย 1-3-วัน
- เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป และควรทราบว่าหลังผ่าตัดย่อมเกิดการบวม ซึ่งต้องใช้เวลาในการหายของแผลหรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่
- สำหรับผู้ที่เสริมจมูกแบบโอเพ่น ซึ่งเป็นการผ่าตัดด้วยวิธีการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ผู้รับบริการจะต้อง ถอดเล็บปลอม ถอดเล็บเจล ล้างยาทาเล็บออกจากเล็บ และงดรับประทานอาหารและงดดื่มน้ำอย่างน้อย 8 ชั่วโมงขึ้นไปก่อนถึงเวลาผ่าตัด รวมถึงผู้รับบริการที่เสริมจมูกเทคนิคใดก็ตามที่ต้องมีการดมยาสลบ

Tips : เตรียมความพร้อมในวันผ่าตัด
- อาบน้ำสระผมให้เรียบร้อยในวันผ่าตัด งดใส่คอนแทคเลนส์ งดแต่งหน้า งดทาเล็บ งดทาโลชั่น งดฉีดน้ำหอม หรือใส่เครื่องประดับในวันผ่าตัด กรุณาเก็บของมีค่าไว้ที่บ้าน
- ใส่เสื้อผ้าที่มีลักษณะหลวมๆ มีซิบหรือกระดุมด้านหน้า ไม่ควรใส่ชุดหรือกางเกงรัดรูป และไม่ควรขับรถมาเองผู้เดียว ต้องมีผู้ติดตามหรือญาติมาด้วยในวันผ่าตัด
- ควรมาเตรียมตัวก่อนเวลาผ่าตัด 1 ชั่วโมง
เสริมจมูกไม่ใช่แค่เสริมแล้วจบ...หลังทำจมูก กินอะไรได้บ้าง ดูแลตัวเองยังไง?
- ประคบผ้าเย็นหรือถุงน้ำแข็งด้วยความระมัดระวังในช่วง 7-วันแรก รอบบริเวณที่ติดเทป โดยระวังอย่าให้ถุงน้ำแข็งสัมผัสกับบริเวณที่ติดพลาสเตอร์
- หลังวันที่ 7 หลังจากแกะพลาสเตอร์แล้ว ให้ประคบอุ่นบริเวณที่บวมช้ำ
- นอนหนุนหมอน ในท่าที่ศีรษะสูงในช่วง 2-3–วันหลังการทำ เนื่องจากหลังการผ่าตัดเสริมจมูกไปแล้ว 24ชม. จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยบริเวณจมูก และมีอาการบวมบริเวณใบหน้า
- หลังจากทำจมูก 3-7 วันแรก สามารถไปทำงานได้ โดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่างที่ต้องออกกำลังมาก อย่างเช่น การวิ่ง , การว่ายน้ำ
- ควรหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูก , การขยี้จมูก , ก้มหน้านาน-ๆ รวมถึงการยกของหนัก
- ไม่ควรนอนตะแคงในช่วง 2-3 วันหลังจากการทำ เพราะอาจจะทำให้จมูกผิดรูป
- ไม่ควรสั่งน้ำมูกแรง-ๆ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมทีอาจจะกระทบกระเทือนจมูกได้ เช่น-การวิ่ง การกระโดด ในช่วงสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด และตัดไหมหลังจากทำ 1–สัปดาห์
- หลังจากทำไปแล้ว 1-2 สัปดาห์อาการบวม หรือเขียวคล้ำจะหายไป ทุกอย่างจะเริ่มเป็นธรรมชาติหลังจากที่ทำไปประมาณ 1-3–เดือน
- รับประทานตามที่โรงพยาบาลศัลยกรรม-SLC จัดให้จนครบ และมาพบศัลยแพทย์ตามนัด
- หากมีอาการผิดสังเกต หรือมีข้อสงสัย กรุณาโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ทันที
- โดยปกติจมูกจะยุบบวมและเข้าที่ใน 3-6 เดือนขึ้นไป ซึ่งในการดูจมูกว่าเอียงหรือไม่ สามารถดูได้เมื่อครบ 3 เดือนไปแล้ว
ระยะเวลาการพักฟื้นหลังทำจมูก
หลังเสริมจมูกผู้รับบริการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ สามารถไปทำงานปกติได้ในวันถัดไปแต่ให้ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณจมูก
วิธีประคบเย็นหลังเสริมจมูก
เสริมจมูกกินอะไรได้บ้าง?
Do's & Don'ts เทคนิคหายเร็วหลังเสริมจมูก
อาการที่อาจพบได้หลัง ทำจมูก
- หลังทำจมูก 24 ชั่วโมง อาจจะรู้สึกปวดศีรษะ ปวดบริเวณจมูก บวมบริเวณใบหน้า ให้รับประทานยาแก้ปวดที่โรงพยาบาลจัดให้
- จมูกอาจจะบวมมากที่สุดประมาณ 2 – 3-วัน สามารถแกะพลาสเตอร์ที่ปิดแผลไว้ออกได้ โดยแกะออกได้ตอนครบ 7-วัน
สิ่งที่ควรระวัง : ระวังการกระทบกระเทือนบริเวณจมูก รวมถึงงดเล่นโทรศัพท์มือถือขณะนอนราบ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการทำโทรศัพท์มือถือตกใส่บริเวณใบหน้า
สำหรับใครที่อยากรู้วิธีการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกและการดูแลหลังเสริมจมูกสามารถคลิกดูที่ คู่มือการเตรียมความพร้อมและการดูแลหลังเสริมจมูก บอกหมดไม่มีกั๊ก หลังเสริมจมูกกินอะไรได้บ้าง และอะไรบ้างที่หมอศัลย์บอกอย่าเพิ่งหาทำ!! ถ้าไม่อยากจมูกพัง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ศัลยกรรมเสริมจมูก
Meet The Doctor EP1. คุยกับคุณหมอปลาวาฬ เจาะลึกทุกเรื่องก่อน "ทำดั้ง" คลิกที่นี่
Meet The Doctors EP2. คุยกับคุณหมออ้น จมูกของคุณมีลักษณะแบบไหน?
วัสดุที่ใช้ในการ ศัลยกรรมเสริมจมูก มีอะไรบ้าง?
1.-ซิลิโคนทางการแพทย์ คือซิลิโคน BIOMEDICAL GRADE มีคุณภาพดี ปราศจากเชื้อ ซิลิโคนสำหรับศัลยกรรมเสริมจมูกจะมีความบริสุทธิ์เหมาะสำหรับใส่ในร่างกายมนุษย์ ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัยอยู่ในระบบปิดและเป็น Full Sterile Technique เป็นโรงงานที่มีการควบคุมเรื่องความสะอาด ปราศจากสิ่งแปลกปลอม ฝุ่น หรือเชื้อโรค มาเจือจนในซิลิโคนสำหรับทำจมูก
2. กระดูกอ่อนซี่โครงทั้งหมดจากร่างกายตัวเอง มีข้อดีคือ ร่างกายจะไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน ช่วยลดปัญหาการอักเสบ การติดเชื้อ ลดการเกิดพังผืด ให้ผลลัพธ์ทรงจมูกที่สวยงามดูธรรมชาติและป้องกันการทะลุได้ดี โดยกระดูกอ่อนซี่โครงส่วนที่นำมาใช้นั้นเป็นส่วนที่ร่างกายใช้งานน้อยที่สุดจึงไม่มีผลกระทบกับโครงสร้างร่างกาย
3. เนื้อเยื่อเทียม คือวัสดุสังเคราะห์ที่ผ่านนำมาผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ มีลักษณะนิ่ม และมีรูพรุนคล้ายฟองน้ำ
ซิลิโคนเสริมจมูก มีกี่แบบ?
- ซิลิโคนรูปตัวไอ (I) เป็นซิลิโคนแท่งตรง สามารถเหลาปรับแต่งรูปทรงได้ ช่วยให้จมูกดูยาวขึ้น
- ซิลิโคนรูปตัวแอล (L) ช่วยให้จมูกดูยาวขึ้น และปลายจมูกดูพุ่งได้มากกว่า
ซิลิโคนเสริมจมูก ทรงต่าง ๆ
- ซิลิโคนสำเร็จรูปทรงแมนทิส (Mantis) เน้นทรงจมูกโด่ง แต่ความพุ่งไม่มาก
- ซิลิโคนสำเร็จรูปทรงบาร์บี้ เน้นปลายจมูกพุ่ง สันดูสโลป เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกเยอะ
- ซิลิโคนเหลา เป็นซิลิโคนแท่งนำมาเหลาขึ้นรูปปรับให้เข้ากับจุดบกพร่องและเสริมจุดเด่นของจมูกแต่ละคน เพื่อให้ได้ทรงที่เหมาะสมกับใบหน้ามากที่สุด ในระยะยาวซิลิโคนเหลายิ่งยุบยิ่งสวย ป้องกันผลแทรกซ้อนหลังทำจมูกได้ดีกว่าซิลิโคนสำเร็จรูปที่ไม่ผ่านการเหลา
ซิลิโคนเสริมจมูกอยู่ได้นานไหม?
การศัลยกรรมเสริมจมูกเราทำเพื่อให้จมูกดูโด่งสวย ถ้าเราทำจมูกได้ทรงที่ดีเข้ากับใบหน้าตัวเองแล้ว ซิลิโคนที่ใช้ทำจมูกไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน สามารถอยู่กับเราได้ตลอดชีวิต เพราะซิลิโคนที่ใช้ทำจมูกเป็นซิลิโคนแท่งไม่มีของเหลว ไม่มีสิ่งอื่นเจือปนอยู่ข้างใน ซึ่งมีความคงรูปและคงตัวสูงมาก
เนื้อจมูกน้อย อยากเสริมจมูกให้โด่งแบบดารา จะทะลุไหม?
สำหรับคนที่มีเนื้อจมูกน้อย หากเลือกความโด่งที่พอดีไม่ฝืนเนื้อจมูกจนเกินไป ช่วยให้โอกาสที่จมูกจะทะลุมีน้อยมากค่ะ แต่ในปัจจุบันมีวัสดุที่ใช้สำหรับรองปลายจมูก เช่น-กระดูกอ่อนหลังหู หรือเนื้อเยื่อก้นกบ เพื่อแก้ไขปัญหาปลายจมูกบางค่ะ
เสริมจมูกแบบโอเพ่น ถ้าไม่ใช้กระดูกอ่อนซี่โครง สามารถใช้อะไรเสริมแทนได้บ้าง?
ปัจจุบันได้มีเทคนิคใหม่ทางการแพทย์เกิดขึ้น เพื่อทดแทนการใช้กระดูกอ่อนซี่โครง ซึ่งก็คือการทำจมูกแบบเปิดด้วยเทคนิค Hybrid ที่ผสมผสานการทำจมูกแบบเปิดทั้ง 2 เทคนิคเข้าด้วยกัน คือการศัลยกรรมเสริมจมูกแบบตะวันออก ที่ทำจมูกแบบเปิดด้วยกระดูกซี่โครง และการศัลยกรรมเสริมจมูกแบบตะวันตก ที่ทำจมูกแบบเปิดด้วยซิลิโคน โดยบริเวณสันจมูกจะเป็นซิลิโคนและบริเวณปลายจมูกจะเป็น “กระดูกอ่อนซี่โครง” ข้อดีคือ ไม่ต้องเลาะกระดูกอ่อนซี่โครงมาใช้เยอะเกินไป สำหรับเคสที่ไม่อยากใช้กระดูกอ่อนซี่โครงในการทำจมูก ศัลยแพทย์จะใช้ กระดูกอ่อนหลังหู หรือ-กระดูกอ่อนแกนกลางจมูก (กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก) มาใช้ทดแทน เพื่อแก้ไขปัญหาจมูกสั้น ดันปลายจมูกให้พุ่งขึ้น ได้ปลายจมูกที่กลมมน หรือ ปลายจมูกทรงหยดน้ำ ข้อดีคือยืดปลายจมูกให้มีความพุ่ง โด่ง ได้ตามที่ต้องการ
ถ้าเสริมจมูกมาแล้ว ในอนาคตอยากเปลี่ยนทรงจมูกทำได้ไหม?
ถ้าอยากเปลี่ยนทรงจมูก สามารถแก้จมูกเพื่อปรับเปลี่ยนทรงจมูกได้ แต่เปลี่ยนเท่าที่จำเป็น เพราะในปัจจุบัน จมูกที่สวยไม่ได้มีคำนิยามว่าเป็นจมูกทรงใดอีกต่อไป ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงตามแฟชั่นและความต้องการของผู้รับบริการ