เจาะลึกเรื่องยกกระชับ! ผิววัย 24 กับ ผิววัย 64 ต่างกันอย่างไร
เมื่อไหร่ที่ได้อายุแตะเข้าเลข 3 เมื่อนั้นจะค้นพบได้เลยว่าในแต่ละปีมันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน เผลอแปบเดียวทำนู้นนี่นั้นจนปีหน้าก็จะเข้าเลข 4 แบบไม่ทันตั้งตัวแล้ว ซึ่งหลายคนไม่รู้ว่าทำไมเราส่องกระจกแล้วดูแก๊แก่ แต่ไม่รู้ต้องแก้ตรงจุดไหน !! ความชรามันไม่ได้จบที่แค่ชั้นผิวเท่านั้น หลายคนไม่เข้าใจ เวลาจะทำหน้า ก็คิดแค่ว่า ต้องโบทอกซ์เท่านั้นถึงจะหน้าเด็ก แต่หารู้ไม่ว่า จริงๆ ความหน้าแก่ของคนเรา เกิดจากหลากหลายปัจจัยในชั้นผิว ซึ่งนั้นก็คือ “ศาสตร์สามเหลี่ยมกับผิวหน้า”

ศาสตร์สามเหลี่ยมกับผิวหน้า
Triangle of youth หรือสามเหลี่ยมแห่งความเยาว์วัย เป็นลักษณะของใบหน้าที่เพอร์เฟคที่แอดใฝ่ฝันถึง เป็นทรงใบหน้าสำหรับคนวัยเยาว์ เรียกแบบนี้ก็ได้ โดยใบหน้าจะต้องเป็นรูปสามเหลี่ยมคว่ำ (จุดแหลมอยู่ด้านล่าง) ซึ่งแน่นอนว่าเมื่ออายุมากขึ้นต้องมีการเปลี่ยนแปลง ใบหน้าจะกลายเป็นรูปสามเหลี่ยมตั้ง (จุดแหลมชี้ขึ้นด้านบน) ทุกส่วนของใบหน้าจะเริ่มเปลี่ยนไป อธิบายให้เห็นภาพชัดขึ้น เมื่ออายุเยอะขึ้นผิวเริ่มต้านแรงโน้มถ่วงไม่ได้ ไขมันใต้คางจะขยายออกข้างและใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า คางสองชั้น เมื่อเราแก่ขึ้นเราคิดว่าแค่ว่าผิวหน้าจะหย่อนคล้อย มีริ้วรอย แต่ความแก่มันไม่ได้ส่งผลแค่ที่ผิว มันส่งผลไปทุกโครงสร้างของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นไขมัน กล้ามเนื้อ และกระดูก ทุกส่วนมีการเปลี่ยนแปลงได้หมด โดยแอดจะมาอธิบายให้ว่าในแต่ละส่วนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ผิวหนัง
มาที่ส่วนแรกเราเห็นกันได้ชัดอยู่แล้วถึงความเปลี่ยนแปลง ผิวเด็กหรือผิวที่อ่อนเยาว์นั้นจะมีความยืดหยุ่น เรียบเนียน มีความชุ่มชื้น และชั้นผิวจะอุดมไปด้วยเซลล์ที่ผลัดเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่ออายุมากขึ้นผิวหน้าจะผลิตน้ำมันน้อยลง ทำให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลง ผิวเริ่มสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินจนส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยและมีความหยาบกร้าน
ไขมัน
ชั้นไขมันที่อยู่ใต้ผิวเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผิวหน้าดูอวบอิ่ม เต่งตึง แต่เมื่ออายุมากขึ้นชั้นไขมันที่หนาแน่นจะเบาบางลง ส่งผลให้ใบหน้าไม่เต่งตึง เกิดมาจากคอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ใต้ผิวเกิดเสื่อมประสิทธิภาพ ไขมันบริเวณแก้มที่ตกลงมากองด้านล่าง ส่งผลให้ใบหน้าดูเหนื่อยและโทรมตลอดเวลา และความที่ไขมันลดลงทำให้ผิวเกิดช่องว่างจึงเป็นเหตุให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย ริ้วรอยบริเวณจมูกและปาก ร่องลึกใต้ตา ช้ำยิ่งกว่านั้นคือช่องว่างที่เกิดขึ้นยังทำให้ผิวหลวมขึ้่นเรื่อยๆ จนทำให้กรามมีความหย่อนคล้อย
กล้ามเนื้อ
ในทุกๆ วันเรามีการขยับกล้ามเนื้อใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นการกิน พูดคุย หัวเราะ หรือยิ้ม ซึ่งเมื่อเราอายุมากขึ้นการสูญเสียไขมันบนใบหน้าบวกกับแรงโน้มถ่วง ทั้งสองอย่างนี้มาเจอกับการขยับกล้ามเนื้อใบหน้าทุกวัน ทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยที่ลึกและชัดขึ้นได้ง่ายมาก นอกจากนี้การขยับกล้ามเนื้อทุกวันยังส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแอลงจนผิวหน้ามีความหย่อยคล้อย โดนเฉพาะบริเวณกรามจะเป็นจุดที่คล้อยอย่างเห็นได้ชัด
กระดูก
กระดูกคือรากฐานของกล้ามเนื้อ ไขมัน และผิวหนัง เรียกว่าเป็นสิ่งที่ทำให้โครงหน้าเราเป็นเอกลักษณ์ เมื่ออายุมากขึ้นกระดูกที่เคยแข็งแรงก็เริ่มเปราะบาง จึงทำให้รูปร่างใบหน้าเปลี่ยนแปลงไป บริเวณรอบดวงตาจะดูใหญ่ขึ้น มุมกระดูกบริเวณคิ้วตกลง และบริเวณกรามก็จะเริ่มหย่อยคล้อย
ทำความเข้าใจอย่างง่ายๆคือ เมื่อเราอายุมากขึ้นใบหน้าเราจะเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งหลักการของการแก่นั้นมาจากทุกโครงสร้างของใบหน้า ผิว ไขมัน กล้ามเนื้อ แม้แต่กระดูก ทุกส่วนทำให้หน้าเหี่ยวได้ วันนี้ทุกคนจะเหมือนถูกดีดนิ้วตรงหน้าให้ตาสว่างว่า ถ้าจะย้อนวัยผิว บอกลาความหย่อนคล้อย กำจัดริ้วรอย ต้องทำความเข้าใจ ว่าต้องปรับไปในทุกส่วนโครงสร้างของใบหน้า ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงยากหน่อยที่จะหาเทคโนโลยีที่มาช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อ แอดก็เคยได้ยินแต่ยกกระชับผิวให้ตึง ฉีดไขมันเติมหน้าเด็ก ฉีดโบลบริ้วรอย แต่ปัจจุบันนี้จับตาอ่านให้ดี แอดมีเทคโนโลยีอัปเดตล่าสุด เป็นเครื่องแรกของโลกเลยที่ช่วยยกกระชับลงลึกถึงกล้ามเนื้อ เจ้าเครื่องที่ว่าก็คือ EMFACE ที่ผสาน 2 เทคโนโลยี HIFES (High-Intensity Facial Electrical Stimulation) และ Synchronized RF ที่จะช่วยกระตุ้นและกระชับ ยกผิวได้ลึก ผิวเฟิร์มฟิตเหมือนออกกำลังกายใบหน้า ริ้วรอยหาย ผิวเรียบเนียน
EMFACE เฟิร์มผิวครบ จบไม่เจ็บ ใน 20 นาที
EMFACE ใช้ 2 เทคโนโลยี ใน 1 Applicator คือ HIFES เป็นพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อเฉพาะมัดที่ยกใบหน้า คือ กล้ามเนื้อ 4 มัด บริเวณหน้าผากและแก้ม โดยสามารถปล่อยพลังงานลงได้ลึกถึงชั้น SMAS ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้ามีการขยับอย่างเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เสมือนกับการออกกำลังกาย เส้นใยกล้ามเนื้อ มวลกล้ามเนื้อมีความแข็งแรง และช่วยกระตุ้นการเรียงตัวของเส้นใยกล้ามเนื้อ ทำให้หน้าดูเฟิร์มขึ้น ผิวหน้าดูยกขึ้น และ Sync RF อีกหนึ่งค่าพลังงานจะช่วยในเรื่องของผิว โดยคลื่นพลังงานวิทยุจะถูกส่งลงไปพร้อมกันกับพลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งจะเข้าไปช่วยในเรื่องของการกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ผิวมีความเรียบเนียน อิ่มฟู ริ้วรอยแลดูจางลง ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น โดยใช้เวลาในการทำไม่นาน เพียง 20 นาที ไม่ต้องใช้ยาชา ไม่ได้ใช้เข็ม ไม่ต้องพักฟื้น ปลอดภัยได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย. ไทย
30% มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น
26% คอลลาเจนเพิ่มขึ้น
23% ผิวยกกระชับขึ้น
37% ริ้วรอยลดลง
แต่นอกจากเจ้า EMFACE เราก็ยังมีเครื่องยกกระชับอีกหลายเครื่องที่บอกเลยว่าว้าวไม่ต่างกัน แต่ละตัวมีจุดเด่นในการช่วยยกกระชับผิวหน้าที่แตกต่างกัน
-
Thermage FLX พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) เป็นพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) สลายไขมันที่แก้ม ใต้คางหรือเหนียง พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิว ยกผิวหย่อนคล้อยให้ตึงกระชับปรับผิวให้เรียบเนียน
-
Ultherapy SPT พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์แบบเจาะจง ลงได้ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน (SMAS) กระชับผิวหน้าอย่างตรงจุด เครื่องเดียวที่มีหน้าจอแสดงผลที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำ ปรับปรุงโครงสร้างของผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณรอบดวงตา มุมปาก ให้ยกขึ้น ลดเลือนริ้วรอยเรียบเนียน สำหรับผู้มีไขมันบนหน้าน้อย แต่มีปัญหาผิวหย้อนคล้อย
-
Morpheus 8 พลังงานคลื่นวิทยุ RF (Radio frequency) ที่สามารถปล่อยพลังงานคลื่นลงได้ลึกหลายระดับของชั้นผิว (Multi Layer Technology) ช่วยหดชั้นไขมันใต้ผิว ปรับผิวให้กระชับ ดูอ่อนเยาว์ กระตุ้นการจัดเรียงโครงสร้างชั้นคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เหมาะกับคนที่ผิวเหี่ยว คอเหี่ยว
-
Sofwave พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นและความถี่สูง ส่งผ่านพลังงานลงสู่ชั้นผิวได้อย่างสม่ำเสมอและแม่นยำ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ตึงกระชับ แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
-
Linelift พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) ที่พลังงานความร้อนลงสู่ชั้นใต้ผิวหนังเป็นลักษณะเส้นตรง สามารถลงได้ลึกถึงระดับชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่ลึกที่สุด สลายไขมันส่วนเกิน พร้อมยกกระชับผิวไปพร้อมกัน ลดเลือนริ้วรอย ความหย่อนคล้อย กระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้ผิวมีความยืดหยุ่น และผิวใสขึ้นได้
-
MPT 4D Lift พลังงานคลื่น Micro Focused Ultrasound โดดเด่นด้วยหัวเครื่องที่มีให้เลือกถึง 7 ขนาด โดยแต่ละประเภทจะสามารถปล่อยพลังงานลงลึกได้หลายมิติของชั้นผิว แก้ไขปัญหาผิวได้เฉพาะจุด กระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนและอิลาสติน สลายไขมัน ยกกระชับผิว กรอบหน้าชัด ปรับผิวเรียบเนียน