10 Check list เสี่ยง “ไบโพลาร์”
หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักกับ “โรคไบโพลาร์” ดีเท่าที่ควร เคยได้ยินคำนี้ก็จริง แต่ก็ไม่ได้เข้าใจโรคนี้จริงๆ หรือก็แค่รู้ว่าเป็นโรคเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแค่นั้นเอง ไม่จำเป็นต้องรักษา สามารภหายไปได้เอง แต่ที่จริงแล้วขึ้นชื่อว่าโรคแล้ว ควรได้รับการรักษาด้วยกันทั้งนั้น
อารมณ์ที่สวิงระหว่าง ดี กับ เศร้า
โรคไบโพลาร์ (Bipolar disorder) หรือ โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว เป็นความผิดปกติทางอารมณ์อย่างหนึ่ง โดยผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะมีลักษณ์อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมาระหว่างอารมณ์ซึมเศร้า เช่น เบื่ออาหาร รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า นอนไม่หลับ สมาธิสั้น อ่อนเพลีย เป็นต้น สลับกับช่วงที่อารมณ์ดีมากกว่าปกติ เช่น ครึกครื้นเป็นพิเศษ พูดไม่หยุด ไม่อยากนอน กระตือรือร้นมาก มั่นใจในตัวเองสูง เป็นต้น โดยอาการแต่ละช่วงจะเป็นอยู่ประมาณสัปดาห์ หรือเป็นเดือนๆ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ไปมาจะทำให้ไปรบกวนการทำงานของจิตใจ และความสามารถด้านต่างๆ
ทำไมถึงเป็นโรคนี้?
ผู้ที่เป็นโรคนี้เกิดจากความผิดปกติทางสมอง เกิดจากการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทของสมอง และสารเคมีในสมองที่เปลี่ยนแปลงไป มีความแปรปรวน เมื่อพบเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความกดดันทางจิตใจ หรือมีการใช้สารกระตุ้นต่างๆ ก็จะเป็นกระตุ้นทำให้โรคที่แฝงอยู่แสดงอาการนั่นออกมา ดังนั้นโรคนี้ควรได้รับการรักษาด้วยแพทย์
ลองมาเช็คกันค่ะว่าเรามีกำลังเป็นโรคไบโพลาร์ หรือสุ่มเสี่ยงจะเป็นโรคนี้กันรึเปล่า?
- รู้สึกร่าเริง หรือครึกเป็นพิเศษ จนคนรอบข้างทัก
- โมโหง่ายกว่าปกติ
- รู้สึกมั่นใจตัวเองมากกว่าปกติ
- ไม่รู้สึกอยากนอน แต่ไม่รู้สึกว่าพักผ่อนน้อย
- คุยเก่งกว่าปกติ ชอบเข้าสังคมมากผิดปกติ
- สมาธิสั้น
- พูดเร็วกว่าปกติ
- มีแรงมากกว่าปกติ ใช้พลังงานมากผิดปกติ
- มีความต้องการทางเพศสูง
- ใช้จ่ายเงินกว่าปกติเมื่อคุณเช็คแล้วว่าคุณหรือคนรอบข้างคุณมีอาการที่กล่าวมาข้างต้น อาจทำให้เสี่ยงที่จะเป็นโรคไบโพลาร์ ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ หากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เราจึงแนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจาก med.mahidol.ac.th
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Call Center : +66 2 714 9555
Whatsapp : +66 96 116 0806
Facebook : SLCclinic
Skype : SLCclinic
LINE : @SLChospital
