เคยไหมล่ะ ตื่นเช้ามาโกนขนแบบสวยๆ เรียบๆ แต่พอตอนเที่ยงขนเป็นตอมาแล้ว! แสบคัน อักเสบ ไปหมด บางทีโกนแปปเดียวก็เจอขนคุดให้ปวดหัว หรือไม่ก็ถอนขนจนผิวแดงระคายเคือง แวกซ์แล้วเจ็บแบบจี๊ดจ๊าด ทำให้เราต้องมาหา วิธีกำจัดขน แบบจริงจัง
เบื่อกันมั้ยล่ะกับวิธีกำจัดขนแบบเดิมๆ ที่ทำไปทำมาก็แบบนี้ตลอด? ทำไปทำมาขนก็ยังกลับมาขึ้นเหมือนเดิมทุกทีทุกครั้ง บางทีขนที่ขึ้นมาใหม่ยังเป็นตอหรือกลายเป็นขนคุดให้ปวดหัวอีกด้วย ทำให้ผิวเป็นตุ่มไม่เรียบเนียน
วันนี้ SLC ขอมารวบรวม 9 คำถามยอดฮิต เรื่อง วิธีกำจัดขน ที่หลายคนสงสัยมาตอบให้ฟังแบบครบถ้วน ตั้งแต่วิธีพื้นฐาน ไปจนถึงเทคโนโลยีกำจัดขน ที่จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจและเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองได้อย่างถูกต้อง!
Q1: วิธีกำจัดขน มีกี่แบบ แต่ละแบบมี ข้อดี-ข้อเสียอย่างไร?
วิธีกำจัดขน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ตามความคงทนของผลลัพธ์เลย
วิธีแบบเดิม (ผลลัพธ์ชั่วคราว):
- โกนขน – เร็วและถูก แต่ขนขึ้นเป็นตอและเกิดขนคุดง่าย ต้องทำทุก 1-2 วัน
- ถอนขน – ได้ผลนานกว่าประมาณ 2-3 สัปดาห์ แต่เจ็บมากและผิวอักเสบง่าย
- แวกซ์ – ได้ผลค่อนข้างนาน แต่เจ็บแรงและผิวแดงหลังทำ ไม่เหมาะกับทุกบริเวณ
- ครีมกำจัดขนและมูสกำจัดขน – ใช้ง่ายสบาย แต่มีสารเคมีแรงและกลิ่นเหม็นค่อนข้างรุนแรง
วิธีแบบใหม่ (ผลลัพธ์ระยะยาว):
- เลเซอร์กำจัดขน – ใช้พลังงานแสงทำลายรากขน ลดการเติบโตของขนในระยะยาว
- IPL – ใช้แสงหลายความยาวคลื่น ประสิทธิภาพจำกัดกว่าเลเซอร์
- การจี้ไฟฟ้า – ใช้กระแสไฟฟ้าทำลายรากขนทีละเส้น ใช้เวลานานมาก

สรุปง่าย ๆ คือ วิธีแบบเดิมแก้ปัญหาชั่วคราว ต้องทำซ้ำบ่อยๆ ส่วนวิธีแบบใหม่มุ่งแก้ปัญหาระยะยาวได้ดีกว่า
Q2: ทำไมวิธีกำจัดขนแบบเดิม ๆ ถึงมีปัญหาเดิม ๆ ตามมา?
นี่แหละคำถามที่หลายคนสงสัย! ทำไมทุกครั้งที่โกน ถอน หรือแวกซ์แล้วถึงมีปัญหาตามมาเพียบ?
ปัญหาที่พบบ่อยสุดๆ:
- ขนคุด – เกิดเมื่อขนงอกกลับเข้าหาผิวแทนที่จะโผล่ออกมา ทำให้เกิดตุ่มแดงระคายเคืองแบบเจ็บปวด
- ผิวหมองคล้ำ – จากการถูขัดผิวบ่อย ๆ หรือการอักเสบของผิวซ้ำ ๆ จนกลายเป็นรอยดำถาวร
- ตุ่มหนังไก่ – รูขุมขนอักเสบจากการดึงขนแรงเกินไป ทำให้ผิวดูขรุขระไม่เรียบเนียน
- ขนขึ้นเป็นตอ – เมื่อโกนขน ส่วนปลายที่ตัดจะดูแข็งและหนากว่าเดิม เพราะส่วนปลายธรรมชาติที่เรียวถูกตัดออกไป
สาเหตุหลักที่ทำให้เป็นแบบนี้: วิธีเหล่านี้กำจัดได้แค่ส่วนที่เห็นบนผิว ไม่ได้ทำลายรากขนจริง ๆ รากขนยังคงอยู่ใต้ผิว จึงทำให้ขนขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ และบางครั้งขนใหม่ที่พยายามแทงขึ้นมาก็เกิดปัญหาขนคุด หรือเป็นตอได้ง่ายกว่าขนธรรมชาติ

Q3: เลเซอร์กำจัดขน ทำงานอย่างไร ต่างจากวิธีเดิมยังไง?
เรื่องนี้ต้องเข้าใจก่อนถึงจะรู้ว่าทำไมเลเซอร์ถึงเป็นทางออกที่ดีกว่า!
หลักการทำงานของเลเซอร์:
- ส่งพลังงานแสงลงไปยังรากขนโดยตรง ไม่ได้แค่ตัดขนที่ผิวหน้าเหมือนการโกน
- ความร้อนจากเลเซอร์ทำลายต่อมรากขนและหยุดการเติบโตของขน
- ขนจะค่อย ๆ ร่วงหลุดออกไปและลดการขึ้นใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ
ต่างจากวิธีกำจัดขนแบบเดิมยังไง:
- แก้ปัญหาที่ต้นตอ ไม่ใช่แค่ผิวเผิน เพราะลงไปทำลายรากขนจริง ๆ
- ลดการอักเสบและขนคุด เพราะไม่ต้องมาถูขัด ดึง หรือกำจัดขนบ่อย ๆ
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า เพราะรากขนถูกทำลาย ไม่ใช่แค่ตัดออก

Q4: เลเซอร์กำจัดขนมีกี่ประเภท แต่ละแบบเหมาะกับใคร?
เลเซอร์กำจัดขนไม่ได้มีแค่แบบเดียวนะ แต่ละประเภทมีจุดเด่นต่างกันไป มาดูกันว่าแบบไหนเหมาะกับเราบ้าง
ประเภทเลเซอร์กำจัดขนยอดนิยม:
- Alexandrite Laser (755nm) – เหมาะกับผิวขาวและขนสีเข้ม ยิงได้เร็ว เจ็บน้อย
- Diode Laser (800-810nm) – เหมาะกับผิวขาวถึงผิวคล้ำปานกลาง ได้ผลดีกับขนหนา
- Nd:YAG Laser (1064nm) – เหมาะกับทุกสีผิว มีความเหมาะสมสูง ลงลึกได้ดีที่สุด
- IPL (Intense Pulsed Light) – ไม่ใช่เลเซอร์แท้ ใช้แสงหลายความยาวคลื่นพร้อมกัน ประสิทธิภาพจำกัดกว่า
การเลือกใช้: ขึ้นอยู่กับสีผิว สีขน และบริเวณที่ต้องการกำจัด แต่ละคนอาจเหมาะกับเครื่องต่างกัน จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ
Q5: ยิงเลเซอร์กำจัดขนเจ็บมากไหม?
คำถามฮิตสุดที่ทุกคนอยากรู้! เลเซอร์กำจัดขนจะเจ็บแค่ไหนกันแน่? ถ้าจะให้มาบอกว่าไม่เจ็บเลย ก็คงจะดูเป็นเรื่องโกหก แต่ความเจ็บนี้ขอบอกเลยว่าเป็นความเจ็บที่รับมือได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับความหนาบางของเส้นขนของเรา บริเวณที่ทำ และความไวต่อความเจ็บปวดของแต่ละคน บางคนอาจรู้สึกแสบร้อนเล็กน้อย บางคนอาจแทบไม่รู้สึกอะไรเลย
ประสบการณ์ความเจ็บ:
- รู้สึกคล้ายยางยืดดีดเบาๆ หรือแสงแฟลชของกล้องถ่ายรูป
- เจ็บแค่วินาทีขณะที่เลเซอร์ยิง ไม่ใช่ความเจ็บแบบต่อเนื่อง
- หลายคนบอกว่าเจ็บน้อยกว่าการแวกซ์มาก เพราะไม่ต้องดึงขนออกแรงๆ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความรู้สึกเจ็บ:
- บริเวณผิว – ผิวบอบบางอย่างบิกินี่หรือใต้แขนจะไวกว่าผิวแข็งอย่างหน้าแข้ง
- ความหนาของขน – ขนหนาอาจให้ความรู้สึกมากกว่าขนอ่อน เพราะใช้พลังงานมากกว่า
- ประเภทเลเซอร์ – แต่ละแบบความรู้สึกต่างกันเล็กน้อย
ดีที่เทคโนโลยีสมัยใหม่มักมีระบบช่วยลดความรู้สึกไม่สบาย เช่น การเป่าลมทำความเย็นควบคู่ไปกับการยิงเลเซอร์
Q6: ทำเลเซอร์กำจัดขนกี่ครั้งถึงเห็นผล?
นี่เป็นอีกคำถามที่หลายคนอยากรู้มาก! จะต้องทำกี่ครั้งกันแน่ถึงจะจบปัญหาขน?
จำนวนครั้งโดยเฉลี่ย:
- ประมาณ 6-8 ครั้ง โดยห่างกันครั้งละ 4-6 สัปดาห์
- ขึ้นอยู่กับความหนาบางของขนและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์ที่จะเห็นได้แต่ละช่วง:
- ครั้งแรก: ขนจะเริ่มร่วงใน 2-3 สัปดาห์หลังทำ เห็นได้ชัดเลย
- ครั้งที่ 3-4: ขนใหม่ที่ขึ้นมาจะบางและอ่อนลงกว่าเดิมเยอะ
- ครั้งที่ 6-8: ขนจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด บางบริเวณอาจเหลือแค่ขนเบาบางๆ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อจำนวนครั้ง: ฮอร์โมน, สีขน, บริเวณที่ทำ, และวงจรการเติบโตของขนแต่ละคน ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
Q7: เลเซอร์กำจัดขนทำได้บริเวณไหนบ้าง?
ข่าวดีคือเลเซอร์กำจัดขนทำได้เกือบทุกบริเวณของร่างกายเลย!
ทำได้หมดทุกจุด:
- ใบหน้า: ไรผม, หนวด, เครา, คิ้ว, ข้างแก้ม
- ร่างกาย: รักแร้, แขนบน, แขนล่าง, หน้าแข้ง, ต้นขาด้านหน้าและด้านหลัง
- จุดซ่อนเร้น: บิกินี่, บราซิเลียน
การเตรียมตัวและข้อควรระวังจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริเวณ โดยเฉพาะจุดซ่อนเร้นที่ผิวบอบบางกว่า จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
Q8: ก่อนและหลังทำเลเซอร์ต้องดูแลตัวอย่างไร?
การเตรียมตัวก่อนทำและการดูแลหลังทำสำคัญมาก! ทำถูกวิธีจะได้ผลลัพธ์ดีและหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่จำเป็น
ก่อนทำ (2-3 สัปดาห์):
- งดถอน แวกซ์ ครีมกำจัดขนทุกประเภท เพราะต้องมีรากขนให้เลเซอร์จับได้
- หลีกเลี่ยงการสครับและขัดผิวแรงๆ
- งดใช้ครีมที่มีกรดผลัดเซลล์หรือสารเคมีแรง
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น ซาวน่า อาบแดด
- ปล่อยให้ขนยาวเล็กน้อยเพื่อให้เลเซอร์จับได้ดี

หลังทำ:
- อาจมีอาการผิวแดงหลีงเลเซอร์เล็กน้อย โดยเจ้าหน้าที่จะทาครีมลดความระคายเคือง สามารถประคบเย็นได้หากต้องการ
- หลีกเลี่ยงน้ำร้อนและงดออกกำลังกายหนักที่ทำให้เหงื่อออกมากใน 24 ชั่วโมงแรก
- งดสครับและขัดผิวอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน ใช้ครีมกันแดดเมื่อต้องออกไปข้างนอก
- ทาครีมบำรุงที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
Q9: โปรแกรม SLC Laser Hair Removal ที่ SLC พิเศษกว่ากำจัดขนที่อื่นอย่างไร?
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้อง SLC เมื่อมีตัวเลือกเยอะแยะ? และโปรแกรม SLC Laser Hair Removal ที่ SLC มีอะไรเด็ดจนทำให้หลายคนเลือกมาทำที่นี่?
จุดเด่นสุดจึ้งของโปรแกรม SLC Laser Hair Removal:
- เหมาะกับขนทุกประเภท – ไม่ว่าจะหนา บาง เข้ม อ่อน หรือทุกสีผิว ทำได้หมดเลย
- ไม่เบิร์นผิว – เทคโนโลยี Clear YAG Pro-U 1064nm มีความเหมาะสม ลงลึกได้ดีแต่ไม่ทำร้ายผิวชั้นบน
- เจ็บแต่จบ – ถึงจะฟังดูน่ากลัว แต่เรามีการประคบเย็นก่อนทำ และถ้าใครยังกังวลหรือกลัวว่าจะเจ็บ เรามีการใช้ Dynamic Cooling Device เครื่องเป่าลมเย็นที่ช่วยลดความเจ็บขณะทำ ทำให้รู้สึกสบายมากขึ้นและไม่ต้องกังวลกับความเจ็บปวดอีกต่อไป
- เห็นผลหลังทำ – ไม่ต้องรอเป็นเดือน ผิวแลดูเนียนขึ้นอย่างชัดเจน
- ไม่เป็นตอ – ทำลายรากขนแบบสมบูรณ์ ขนใหม่ที่ขึ้นมาจะไม่แข็งเป็นตอเหมือนการโกน

ต่างจากที่อื่นยังไง: บางที่ใช้เครื่องคุณภาพต่ำหรือเทคโนโลยีเก่า อาจทำให้ผิวเบิร์นหรือไม่เห็นผล บางเครื่องเจ็บมากแต่ได้ผลน้อย หรือทำเสร็จแล้วผิวเหนียวไม่สบาย แต่โปรแกรม SLC Laser Hair Removal ให้ผลลัพธ์สม่ำเสมอ ทำเสร็จผิวสะอาดสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ต้องกลัวผิวไหม้หรือเสียเงินเปล่า
จบปัญหาขนให้เรียบร้อย เลือกโปรแกรม SLC Laser Hair Removal ที่ SLC แล้วจะรู้ว่ามีจริง!
นึกภาพดูสิว่าจะมีชีวิตที่ไม่ต้องตื่นเช้ามายืนโกนขนในห้องน้ำทุกวัน ไม่ต้องกลัวขนคุดแดงๆ โผล่มาเซอร์ไพรส์ตอนกำลังจะออกไปเจอเพื่อน ไม่ต้องซ่อนผิวคล้ำๆ ที่รักแร้หรือขา ไม่ต้องทนเจ็บกับการแวกซ์ทุกเดือน แค่คิดก็รู้สึกโล่งใจแล้วใช่มั้ย?
หลังจากได้อ่านคำถามทั้ง 9 ข้อมาแล้ว เชื่อว่าทุกคนคงเข้าใจแล้วว่า วิธีกำจัดขน แบบไหนเหมาะกับตัวเองมากที่สุด หากเบื่อกับการต้องโกน ถอน แวกซ์ขนแบบไม่มีที่สิ้นสุด และอยากแก้ปัญหาให้จบในระยะยาว โปรแกรม SLC Laser Hair Removal ที่ SLC คือทางออกที่คุ้มค่าที่สุด
เจ็บแต่จบ ไม่เบิร์นผิว เหมาะกับทุกสีผิว เห็นผลได้หลังทำ และที่สำคัญคือไม่ต้องเสียเวลากำจัดขนทุกอาทิตย์อีกต่อไป! คิดดูสิว่าจะได้เวลาไปทำอย่างอื่นที่สนุกกว่ามากแค่ไหน
อย่ารอช้า! มาปรึกษาก่อนที่ SLC ทุกสาขา เพื่อเริ่มต้นการกำจัดขนอย่างมั่นใจและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในระยะยาว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Call Center: +66 2 714 9555
Whatsapp: +66 96 116 0806
Facebook: SLCclinic
Skype: SLCclinic
LINE: @SLChospital