ผิวหน้าพัง! หลังออกซ่า ท้าแดดจัด "วันสงกรานต์"
หลังจากที่ผ่านการเล่นน้ำในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย “วันสงกรานต์” กันมาอย่างหนักหน่วง หลายท่านอาจจะรู้สึกได้ถึงสภาพอากาศที่ร้อนจัด ซึ่งในบางพื้นที่นั้น มีอุณหภูมิสูงถึง 44 องศาฯ ค่าเฉลี่ยในปีนี้ ระบุว่าสูงกว่าหลายปีที่ผ่านมา แต่คุณรู้หรือไม่? แสงแดดนั้น สามารถทำร้ายผิวคุณได้ทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นแดดอ่อน หรือ แดดจัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเข้มของรังสียูวีในแดดนั่นเอง
3 ลำดับ “ภัยร้ายรังสี UV” ทำลายผิว
1. รังสียูวีเอ (UVA) รังสีอัลตร้าไวโอเลตที่มีความยาวคลื่น 320 – 400 นาโนมิเตอร์ นับว่าเป็นอันตรายที่สุดจาก รังสียูวีทั้ง 3 ชนิด หาก UVA ได้สัมผัสกับผิวแล้ว ยังจะมีอานุภาคในการทำลายลงลึกไปได้ถึงชั้นหนังกำพร้า และ ชั้นหนังแท้ได้ หากได้รับรังสี UVA มากๆ ในระยะยาวจะส่งผลทำให้เกิดอนุมูลอิสระในผิวหนังเข้าไปทำลายความยืดหยุ่นของเซลล์ ทำให้ผิวเหี่ยวย่น สีผิวคล้ำ เกิดริ้วรอยก่อนวัย ไร้ความสดใส
2. รังสียูวีบี (UVB) รังสีอัลตร้าไวโอเลตที่มีความยาวคลื่นรองลงมาจาก UVA 290 - 300 นาโนมิเตอร์ ถึงแม้ว่ารังสี UVB จะไม่สามารถทะลุมายังชั้นผิวหนังได้ลึกเท่ากับ UVA แต่หากโดนแสงแดดจัดนานๆ ก็มีผลทำให้สูญเสียความชุ่มชื้น เกิดอาการอักเสบ แสบร้อนแดง และ ไหม้เกรียมได้ ภายใน 24 ชม.
3. รังสียูวีซี (UVC) เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นสั้นที่สุด โดยที่จะถูกกรองไว้ที่ชั้นโอโซน แต่ในปัจจุบันพบว่ารังสี UVC นั้น สามารถทะลุชั้นโอโซนลงมาได้เพิ่มขึ้น โดยเกิดจากมลพิษที่มนุษย์ได้ก่อขึ้นนั่นเอง
ระวัง! ภัยแดด “มะเร็งผิวหนัง”
เมื่อการค้นคว้าได้พบว่า รังสีที่มาจากแดดนั้นสามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังกันเพิ่มมากขึ้น วงการทางการแพทย์จึงถือกำเนิด “ครีมกันแดด” ขึ้นมาเพื่อป้องกันรังสีความร้อน แต่ในปัจจุบันนั้น ครีมกันแดด ถือว่าเป็นเพียงอีกปัจจัยหนึ่งในการป้องกันผิวให้ปลอดภัยจากแดดที่นับวันยิ่งทวีคุณความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่หากผู้ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากแสงแดดได้ จนก่อให้เกิดผลเสียต่อผิว ไม่ว่าจะเป็น กระ ฝ้า ผิวหมองคล้ำ ผิวแลดูไม่สดใสเสียสุขภาพ เรามาดูเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่จะพิชิตผิวหมองคล้ำให้กลับสู่ผิวขาวใสดังเดิม
6 เทคโนโลยี พิชิต! ผิวหมองคล้ำ คืนความกระจ่างใส ให้ผิวสวยสุขภาพดี