Needle RF เปลี่ยนหลุมสิว เป็นผิวสวย
บำรุงเท่าไร ถมครีมมากมาย ผิวที่เป็นหลุมก็ไม่เต็ม ไม่ตื้นขึ้นสักที!! สำหรับปัญหาผิวหลังเกิดสิว นอกจากทิ้งรอยแล้ว ยังทิ้งหลุมสิวไว้ให้ดูต่างหน้า แต่งหน้ายาก ทาแป้งไม่ติด กลบรองพื้นหนายิ่งทำให้ผิวอุดตัน บำรุงเท่าไรก็ไม่ได้ผิวหน้าที่เนียนกลับมาเหมือนเดิม ที่ใครๆ บอกกันว่า ถ้าเกิดเป็นหลุมสิวแล้วหายยาก ต่อไปนี้จะเป็นเรื่องง่ายๆ ด้วยเทคโนโลยีการรักษาเลเซอร์หลุมสิว ฟื้นผิวหลุมให้เด้งเนียนใสอีกครั้ง!
หลุมสิวคืออะไร เกิดจากกอะไรกัน?
สาเหตุของการเกิดหลุมสิวนั้น เกิดจากการที่เป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ถูกกด หรือบีบสิวไม่ถูกวิธี ทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวเกิดการอักเสบ ผิวหนังเกิดการยุบตัวลงจากการกดสิวออกมาและสร้างเป็นพังผืดรั้งผิวจนเกิดเป็นหลุมสิวขึ้นมา
สังเกตตัวเองกันสักนิด ว่าคุณมีหลุมสิวแบบไหน?
.jpg)
ประเภทของหลุมสิว แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
.jpg)
-
Rolling Scar - ลักษณะเป็นรอยหลุมแบบทั่วๆ ไป เป็นหลุมสิวที่มีความโค้ง คล้ายแอ่งกระทะ ลึกลงจากผิวเพียงเล็กน้อย ซึ่งยังถือเป็นหลุมสิวระดับตื้น สามารถรักษาได้ง่าย และเห็นผลลัพธ์ได้ไว
.jpg)
-
Box Scar - ลักษณะของหลุมสิวประเภทนี้จะมีขอบของหลุมสิวที่ชัด และมีขนาดกว้าง มีฐานหลุมเป็นทรงสี่เหลี่ยม ความลึกของหลุมผิวจะอยู่แค่ระดับชั้นผิวเท่านั้น
.jpg)
-
Icepick Scar - ลักษณะรอยหลุมสิวที่มีความรุนแรงที่สุด เป็นหลุมที่มีความชัดของขอบผิว และมีความแคบ แหลมลึกลงไประดับชั้นผิวหนังแท้ หรือ ชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการรักษานานกว่าประเภทอื่นๆ กว่าผิวจะกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง
เปลี่ยนหลุมสิว เป็นผิวสวย ด้วย Needle RF

Needle RF เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงาน Fractioncal RF (Fractional Radiofrequency) โดยผ่านตัวเครื่องที่มีหัวเข็มขนาดเล็ก ทะลุผ่านผิวชั้นหนังกำพร้าลงไปยังชั้นผิวหนังแท้ โดยหัวเข็มนั้นจะเข้าไปทำลายพังผืดที่รั้งยืดเกาะใต้ชั้นผิวหนัง สาเหตุของการเกิดหลุมสิว รอยแผลเป็นต่างๆจากสิว และยังช่วยในการเปิดรูขุมขน เตรียมพร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่ ซึ่งการปล่อยพลังงานผ่านหัวเข็มนั้น สามารถเลือกระดับความยาวของเข็มได้ตั้งแต่ 0.1-0.4 มิลลิเมตร เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาให้เหมาะกับผิวของแต่ละบุคคลได้ด้วย โดยอุปกรณ์หัวเครื่องนี้ จะสามารถลงลึกได้ตั้งแต่ชั้น Dermis (ชั้นหนังแท้) และ ผิวชั้น Subcutaneous (ชั้นไขมัน) ซึ่งผิวหนังในชั้นนี้ จะประกอบไปด้วยเส้นใยคอลลาเจน อีลาสตินและเซลล์ไขมันที่ทำหน้าที่ปกป้องผิว เมื่อปล่อยคลื่นพลังงาน Needle RF ลงไปแล้ว จะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ฟื้นฟูหลุมสิว เติมเต็มผิวหลุมให้แลดูตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยแลดูจางลง ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น
การรักษาหลุมสิวด้วยโปรแกรม Needle RF จะใช้หลักการทำงานร่วมกันของพลังงาน 2 ชนิด คือ
-
พลังงานคลื่นวิทยุ RF energy Bi polar (1MHz)
-
พลังงานกระแสไฟฟ้า Iontophoresis
ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล โดยแพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการประเมินการรักษาว่าสภาพแต่ละปัญหานั้น จะต้องเลือกใช้พลังงานรูปแบบใดในการรักษา
1. รักษาหลุมสิว ด้วยการใช้เทคนิคพลังงานคลื่นวิทยุ RF energy Bi polar (1MHz)
เริมต้นการรักษาหลุมสิวด้วยการปล่อยคลื่นพลังงานผ่านหัวเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีลักษณะเป็นเข็มเล็กๆ ลงบนผิว โดยเลือกขนาดความยาวของเข็มให้เหมาะกับสภาพปัญหาผิว โดยพลังงานคลื่นวิทยุแปรเปลี่ยนเป็นความร้อน RF energy Bi polar (1MHz) (Fractional Needle RF) จะถูกส่งผ่านหัวเข็มเข้าไปยังชั้นผิว Dermis (หนังแท้) และ Subcutaneous (ชั้นไขมัน) ซึ่งเป็นชั้นผิวที่เป็นแหล่งรวมของเส้นใยคอลลาเจน อีลาสตินและเซลล์ไขมัน โดยจะเข้าไปทำลายแนวพังผืดหลุมสิวในแนวดิ่ง และช่วยกระตุ้นเซลล์ Fibroblast ฟื้นฟูการทำงานของคอลลาเจนชั้นใต้ผิวให้กลับคืนสู่สภาพปกติ บริเวณผิวโดยรอบ ผิวหลุมสิว จะค่อยๆ เต็มตื้นขึ้น และช่วยให้ผิวหน้ากระชับ เรียบเนียนขึ้นอีกด้วย

หลักการทำงานของเลเซอร์รักษาหลุมสิว Needle RF
-
หัวเข็มจะทะลุผ่านชั้ยผิวหนังกำพร้า เข้าไปยังชั้นผิวหนังแท้ เพื่อทำลายพังผืดทที่ทำให้เกิดหลุมสิว
-
ตัวเครื่องจะปล่อยพลังงานคลื่น RF แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนที่มีอุณหภูมิคงที่ กระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนและอีลาสติน
-
ผิวหน้าจะมีการฟื้นฟู ปรับผิวให้มีความยืดหยุ่น ผิวมีความตึงกระชับ หลุมสิวตื้นขึ้น เมื่อทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ผิวจะค่อยๆเต็มตื้นขึ้น ริ้วรอยแลดูจางลง ผิวเรียบเนียนขึ้น
* ในกรณีรักษาหลุมสิว พร้อมผิวยกกระชับ ด้วยหลังงาน Bipolar RF หลังทำอาจเกิดผิวแดงอมชมพู 2 – 3 ชม. ขึ้นอยู่กับพลังงานที่ได้รับการรักษา จากนั้นผิวจะค่อยๆ กลับสู่สภาพปกติ

2. ผิวกระจ่างใส เปล่งปลั่งขึ้นด้วยเทคนิคการใช้พลังงงานกระแสไฟฟ้า Iontophoresis
หลังจากใช้พลังงานความร้อน RF ในการทำลายพังผืดและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวแล้ว ยังต้องทำการฟื้นบำรุงผิว ด้วยคลื่นพลังงานกระแสไฟฟ้า Iontophoresis โดยตัวเครื่องที่มีลักษณะเป็นเข็มขนาดเล็ก จะช่วยเปิดรูขุมขนให้พร้อมรับการบำรุง ด้วยการผลักวิตามินสูตรเข้มข้นลงสู่ผิวชั้นลึก โดยวิตามินที่ผลักลงสู่ผิวจะมี 2 ชนิด คือ
-
Vitamin C วิตามินซีชนิดเข้มข้น จะช่วยสร้างคอลลาเจนให้ชั้นผิว ฟื้นฟูและบำรุงผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมาเปล่งปลั่ง กระจ่างใส และยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอย ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้น
-
JA วิตามินเข้มข้นที่ช่วยลดการงานของเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ ช่วยลดรอยดำจากสิว ปรับสีผิวสม่ำเสมอ เรียบเนียน
*การผลักวิตามินบำรุงผิวโดยใช้พลังงานกระแสไฟฟ้า Iontophoresis หลังทำไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ

หลายคนกังวลว่า การทำเลเซอร์ Needle RF เปิดรูขุมขน จะทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นหรือไม่?
แพทย์ผู้ชำนาญการให้คำอธิบายไว้ว่า การเปิดรูขุมขนด้วยเข็มขนาดเล็ก ทำงานร่วมกันกับพลังงาน RF นั้น จะไม่ทำให้เกิดปัญหารูขุมขนกว้างขึ้น แต่จะยิ่งทำให้รูขุมขนกระชับ การใช้เข็มส่งผ่านพลังงานนั้น จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของการรักษาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะควบคุมค่าพลังงานที่เหมาะสม โดยจะส่งงานค่าพลังงานลงลึกไปยังชั้นใต้ผิว จะไม่ส่งผลต่อผิวด้านนอก หรือบริเวณด้านบน และไม่ก่อให้เกิดรอยแผลเป็นหลังทำ และรูขุมขนจะยิ่งกระชับขึ้นอีกด้วย

จุดเด่นของการรักษาหลุมสิว ด้วยเทคโนโลยี Needle RF
-
สามารถปรับระดับของเข็มที่ทำการรักษาได้
-
สามารถเลือกระดับพลังงานให้เหมาะแต่ละส่วนของใบหน้า และสภาพปัญหาของแต่ละบุคคลได้
-
ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นหลังทำ
-
สามารถทำได้ทุกเฉดสีผิว
-
ไม่มีรอยดำหลังทำเลเซอร์
-
ไม่ทำลายผิวชั้นนอก
-
สามารถรักษาได้กับหลุมสิวทุกประเภท
-
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวได้พร้อมกัน
-
ช่วยกระชับรูขุมขน ลดริ้วรอย และเติมเต็มผิวหลุม ให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
-
ช่วยรักษารอยแผลเป็น หลุมสิว ผิวแตกลายได้
-
ใช้ระยะเพียง 30 นาที/ครั้ง ในการรักษา
Needle RF ทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?
-
เทคนิคการรักษาด้วยพลงงาน Bipolar RF สามารถทำได้ทุก 2 – 4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิว
-
เทคนิคการรักษาด้วยพลังงาน Iontophoresis สามารถทำได้ สัปดาห์ละครั้ง
ในการทำแต่ละครั้ง จะใช้ระยะเวลาในการรักษาประมาณ 30-40 นาที / ครั้ง
การรักษาหลุมสิว ควรรักษาอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป เพือให้เห็นผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน โดยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์ที่ได้จากการเลเซอร์รักษาหลุมสิว Needle RF

-
รอยหลุมสิวตื้นขึ้น
-
ผิวเรียบเนียน
-
รูขุมขนกระชับ
-
ลดริ้วรอย ผิวเต่งตึง กระชับ
-
ช่วยรักษารอยแตกลายให้จางลง
-
ลดรอยแดง รอยดำจากสิว
-
รักษารอยแผลเป็นได้
-
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ชั้นผิว
การรักษาหลุมสิว Needle RF เหมาะกับใครบ้าง?
-
ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว
-
ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยรอยแผลเป็น
-
รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน
ข้อควรระวังสำหรับการรักษาหลุมสิว ด้วยเทคโนโลยี Needle RF
-
ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ Pacemaker
-
ผู้ป่วยที่มีโลหะฝังอยู่ในบริเวณตำแหน่งที่จะทำการรักษา
-
ผู้ที่ใส่เหล็กดามกระดูก
-
ผู้ป่วยมะเร็งที่ผิวหนัง
-
หญิงที่กำลังตั้งครรภ์และอยู่ในระหว่างการให้นมบุตร
-
ผู้ป่วยโรคความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด
-
ผู้ที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด
-
ผู้ที่มีผื่นผิวหนังอักเสบ
-
ผู้ที่มีแผลเปิดบริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์
การดูแลผิวหลังทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว Needle RF

-
ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน
-
หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดแรงๆ
-
หากผิวแห้งในบริเวณที่ทำการรักษา ให้ทาครีมบำรุง มอยส์เจอร์ไรเซอร์เบาๆ ให้ผิวชุ่มชื้นเสมอ
-
งดสครับ ขัดผิว บริเวณที่ทำการเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ หลังทำการรักษา
-
งดใช้เครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์
-
งดใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิกหรือกรดเรทิโนอิก สองสัปดาห์ก่อนเริ่มรับการรักษาและงดใช้อีกสองสัปดาห์หลังรับการรักษาแล้ว
-
ทำความสะอาดผิวและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นทุกวัน
-
หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น อาบแดด กีฬาทางน้ำ เป็นต้น
Review Needle RF เลเซอร์รักษาหลุมสิว









