“ถุงใต้ตาหย่อน” ทำให้ใบหน้าดูแก่เกินอายุ?
ปัญหาที่บ่งบอกถึงวัยในอันดับต้นๆ นั้น คงจะหนีไม่พ้นความปกติของผิว ความหย่อนคล้อย ของใบหน้า ซึ่ง “ถุงใต้ตา” ก็เป็นอีกหนึ่ง “ศัตรูตัวร้าย” ที่ส่งผลใบหน้าดูแก่เกินวัย อีกทั้งทำให้ดูใบหน้าโทรม คอยทำลายความมั่นใจ ปัจจุบันมีหลากหลายเทคนิคทางการแพทย์ ที่จะช่วยลดอาการถุงใต้ตาหยอน ถุงใต้ตาบวมได้ ทั้งการฉีด รวมไปถึงการผ่าตัด เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ถุงไต้ตาที่ปูดบวมนั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร?

“ถุงใต้ตา” เกิดขึ้นได้ทั้ง 2 บริเวณใต้ตา ดังนี้
1. ถุงใต้ตาเทียม
เป็นอาการใต้ตาบวมที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมอันผิดปกติ เช่นการอดนอน , ร้องไห้หนัก, ขยี้ตา , ดื่มแอลกอฮอล์เป็นปะจำ, การใช้สายตามาจนเกินไป หรือ แม้กระทั่งอาการแพ้สารต่างๆ ซึ่งอาการบวมของใต้ตาเหล่านี้ เป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น หากดูแลตัวเองเป็นอย่างดี หมั่นประคบเย็น พักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะทำให้ผิวใต้ตาส่วนนี้กลับคืนสู่สภาพปกติ

2. ถุงใต้ตาแท้
ในส่วนนี้จะเป็นถุงใต้ตาที่เกิดขึ้นโดย “กรรมพันธ์” โดยปกติแล้ว คนเราจะมีถุงไขมันใต้ดวงตา จำนวน 3 ถุง เมื่อเกิดการทำงานที่ผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อภายในร่างกาย ก็จะทำให้ของเหลวไหลมารวมตัวกันบริเวณใต้ตามากเกินไป จนทำให้ผิวหนังถุงใต้ตานั้นดูนูนออกมา ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้จากความเสื่อมสภาพของผิวหนังตามกาลเวลา เนื่อเยื่อที่รองรับถุงไขมันใต้ตาหย่อนตัวลงโดยป็นไปตามวัย หากเกิดปัญหาที่ถุงใต้ตาแท้จริงๆแล้วนั้น บางรายก็อาจพบปัญหานี้ได้ตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆเลยทีเดียว ซึ่งวิธีนี้สามารถแก้ไขได้ด้วย “การผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา”

2 วิธีการเปิดแผล “ผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา”
1. แผลด้านใน
เหมาะสำหรับผู้ที่อายุยังน้อย ยังไม่มีหนังตาส่วนเกินออกมามาก ตัดเฉพาะไขมันที่ทำให้เกิดปัญหาออก

2. แผลผ่าตัดด้านนอก
เป็นการเปิดแผลขอบตาล่าง ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนอายุมาก นอกจากที่จะนำไขมันออกมาแล้ว คนอายุมากจะพบว่ามีหนังตาที่หย่อน วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่สามารถเก็บได้ทั้ง หนังตา และ ไขมันถุงใต้ตา

ขั้นตอน “การผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา”
1. ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจะทำการออกแบบ ประเมินถุงใต้ตาส่วนเกินที่ต้องตัดออก
2. ฉีดยาชาเฉพาะจุด ลดความเจ็บ
3. ทำการเปิดแผลด้วยมีดผ่าตัดทางการแพทย์ จากนั้น ใช้แสงเลเซอร์เข้ามาช่วยในการห้ามเลือด ดังนั้น โอกาสในการบวมช้ำจะน้อยมาก
-
หากเปิดแผลนอก จะเปิดแผลตามความยาวใต้ตาล่าง หรือ อาจจะไปถึงหางตาเล็กน้อยขึ้นอยู่กับศัลยแพทย์พิจารณา
-
หากเปิดแผลใน จะมีความยาวเพียง 0.5 – 1 ซม. เท่านั้น
4. นำไขมันส่วนเกินออก
5. หากผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยเกินพอดี ศัลยแพทย์จะทำการตัดหนังส่วนเกินออกให้มีความเหมาะสม
6. เย็บปิดแผลด้วยความละเอียด และ ความชำนาญของศัลยแพทย์เฉพาะทาง
ไขมันใต้ตาเมื่อเอาออกไปแล้ว สามารถกลับมาได้อีกหรือไม่?
เมื่อไขมันใต้ตาได้ถูกเอาออกไปแล้ว จะไม่สามารถกลับมาได้อีก แต่หากพบว่ามีผิวที่ปูดออกมาเล็กน้อยนั้น เกิดจากผนังกล้ามเนื้อใต้ตามีความหย่อนคล้อยลง ซึ่งสามารถแก้ไขด้วยเทคนิคทางการแพทย์ด้วยวิธีใช้เทคโนโลยียกกระชับผิวใต้ตา
ระยะเวลาในการผ่าตัด “การผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา”
45 – 60 นาที
Review ศัลยกรรมผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด "ศัลยกรรมตัดถุงใต้ตา"