หน้าตอบ ดูแก่ ทำอะไรดี? ถ้าอยากให้ผิวฟู ตึง ฉ่ำ แบบผิวผู้ดี ควรทำอะไรกันแน่? ระหว่าง  Radiesse , Sculptra และ Filler

ยุค 2023 สารเติมเต็มงานผิวผุดขึ้นมาเต็มท้องตลาดไปหมด Filler ก็ดี Sculptra® ก็จึ้ง แล้วยังมี Radiesse® โผล่มาอีก แล้วฉันควรทำตัวไหนดีล่ะ? เห้ยสับสนไปหมดแล้วแก สรุปแล้วตัวไหนดีกันแน่? เอางี้พักงงไว้ก่อนแล้วเรามาเจาะลึกสารเติมเต็มแต่ละตัวไปพร้อมกันเลยค่า ระหว่าง Filler, Sculptra และ Radiesse ผิวแบบเราควรจะทำอะไรดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ เหมาะกับปัญหาผิว และตอบโจทย์งานผิวที่เราต้องการมากที่สุด ดังนั้นวันนี้เรามาทำความเข้าใจกระบวนการสร้างสารต่าง ๆ ผิวของเรากันก่อนค่ะซิส

"โดยปกติแล้วผิวของเรามีการสร้างไฮยารูลอนิค และ คอลลาเจน ในผิวทุกวันอยู่แล้วตามธรรมชาติ"

อ้าวถ้าผิวสร้างได้แล้วทำไมต้องอัดสารเติมเต็มอื่น ๆ เข้าไปอีกอ่ะ?

ต้นตอของปัญหามันอยู่ตรงนี้เองค่ะซิส อย่าลืมนะคะว่าในทุกวันทุกวินาทีที่เวลาผ่านไป ร่างกายเราก็ชราขึ้นทุกวัน ความสาวที่เรามีมันเริ่มทยอยหายไปทีละนิด รวมถึงคอลลาเจนและไฮยารูลอนในผิวเราก็เช่นกันหายลงไปทุกวันตามอายุและมลภาวะที่เราเจอ แต่ความตลกมันยังไม่จบเท่านี้ ในระหว่างที่ความชราเริ่มครอบงำ กำลังในการผลิตสารคงความสาวของเราก็ลดน้อยถอยลงไปด้วย ตามกราฟด้านล่างนี้

สรุปคือ แก่ซ้ำแก่ซ้อนเมื่ออายุมากขึ้น!!

เอาล่ะค่ะทีนี้พอเราเข้าใจผิวแล้ว เราก็ต้องมาดูอีก ว่าสารเติมเต็มแต่ละประเภททำหน้าที่อะไร และเหมาะกับปัญหาแบบไหน เพื่อที่เราจะได้เลือกได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด

เจาะลึกสารเติมเต็ม และ Collagen Biostimulator แต่ละชนิด ทั้ง Radiesse, Sculptra และ Filler

สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid หรือที่ใคร ๆ เรียกติดปากว่า Filler

Hyaluronic Acid หรือ ไฮยารูลอนิคแอซิด ในที่นี้จะเรียกย่อ ๆ ว่า HA ในปกติแล้ว HA เป็นสารชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี ช่วยผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นร่างกายของเราจะผลิตสารไฮยาลูรอนและคอลลาเจนได้น้อยลงเรื่อย ๆ ทำให้มีปัญหาผิวและริ้วรอย จึงต้องมีการเติม HA เพื่อเข้าไปทดแทนและเพิ่มวอลลุ่มผิวที่หายไป ทำให้ผิวเรามีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นได้ดี ให้ผลลัพธ์นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิด HA อยากทำความรู้จัก HA คลิก

HA Benefits

• เพิ่มวอลลุ่มผิว เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก
• ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนตามปัญหาที่อยากแก้ไข
• ผิวอิ่มน้ำ กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี

เหตุผลที่เราต้องเติม HA

ร่างกายสร้าง HA ได้น้อยลง + เสียคอลลาเจนลงทุกวัน ทำให้ผิวหย่อนตัว และมีร่องริ้วรอย เราจึงต้อง ใช้ HA เติมเพื่อทดแทนวอลลุ่มผิวที่หายไป

"ดังนั้น HA จึงเหมาะกับ คนที่คอลลาเจนผิวยังดีอยู่ ต้องการเพิ่มวอลลุ่มผิวที่หายบางจุด และเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวเป็นหลัก"

Sculptra® : สารประกอบหลัก คือ Poly-L-lactic acid ใช้เติมเข้าไปในชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้มีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น

PLLA คืออะไร?

Poly L lactic acid (PLLA) เป็น สารอุ้มน้ำที่มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อในร่างกาย ร่างกายสามารถดูดซึมและสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นให้ผิวมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อทำต่อเนื่อง 3 ครั้งขึ้นไป จะให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 2-4 ปี

Sculptra Benefits

• ลดเลือนรอยยับ เส้นริ้วรอยเล็ก ๆ
• วอลลุ่มผิวดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
• ผิวแน่น กระชับ ดูอ่อนเยาว์
• ผิวมีความยืดหยุ่น ชะลอการเกิดริ้วรอย
• กระชับรูขุมขน
• เติมความชุ่มชื้น

Fact ที่ทำให้เราควรใช้สารกระตุ้นคอลลาเจน Sculptra

เนื่องจากผิวเรามีการเสียคอลลาเจนลงทุกวัน ทำให้ผิวหย่อนตัว และมีร่องริ้วรอยที่เห็นได้ชัด จึงมีการเติม PLLA เพื่อเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังเกิดการกระตุ้นคอลลาเจนขึ้นมา ทำให้ผิวมีคอลลาเจนมากยิ่งขึ้น พอคอลลาเจนในผิวมีเยอะขึ้น = ผิวฟูกระชับ เต่งตึง โดยปกติแล้ว Sculptra จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปและอยู่นาน 2 ปี อยากทำความรู้จัก Sculptra ให้มากกว่านี้คลิก

"ดังนั้น Sculptra จึงเหมาะกับคนที่คอลลาเจนผิวลดลง ผิวเริ่มมีรอยยับเล็กน้อย ไม่มีปัญหาเรื่องวอลลุ่มผิว และไม่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มผิวในทันที แต่ต้องการเติมคอลลาเจน เพื่อฟื้นฟูผิวแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเน้นไปที่ผลลัพธ์ธรรมชาติตามโครงสร้างผิวเดิมของตัวเอง "

Radiesse® - สารประกอบ คือ Calcium hydroxylapatite (CaHA) ใช้เติมเข้าไปในชั้นผิว เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน + เป็นเสาเข็มให้เซลล์ผิวใหม่มีที่ยึดเกาะ ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง มีโครงสร้างผิวที่แข็งแรง

CaHA คืออไร?

สาร CaHA ก็คือ Calcium Hydroxylapatite Microshere หรือ แคลเซียมฟิลเลอร์ เพื่อให้ง่ายต่อการพูด เราจะเรียกย่อ ๆ ว่า "คา-ฮ่า ไมโครสเฟียร์" ซึ่งน้อง "คา-ฮ่า ไมโครสเฟียร์" เดิมทีจะถูกใช้เป็นสารทดแทนกระดูกเพราะมีความปลอดภัยสูงและเป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์ ซึ่งในปัจจุบันน้อง "คา-ฮ่า ไมโครสเฟียร์" ถูกนำมาพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถเติมเต็มใบหน้าและส่วนอื่น ๆ ในร่างกายได้อย่างปลอดภัย โดยตัวน้อง "คา-ฮ่า ไมโครสเฟียร์" จะมีโมเลกุลทรงกลมขนาดกระปุ๊กกระปิ๊กเพียง 25-45 ไมครอน และความพิเศษของน้องอยู่ตรงนี้ค่ะคุณ ด้วยความที่น้องมีรูปทรงกลมและมีขนาดเล็กมาก เมื่อจิ้มเข้าไปในชั้นผิวแล้วก็จะทำให้เซลล์ผิว (Fibroblast) มาเกาะรอบ ๆ น้อง แล้วเกิดกระบวนการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวขึ้นมานั่นเอง

Radiesse Benefits

• เติมเต็มริ้วรอย เพิ่มวอลลุ่มผิวทันที
• ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย และชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่
• โครงสร้างคอลลาเจนในผิวแข็งแรง 
• ผิวเต่งตึง เฟิร์ม ดูอ่อนกว่าวัย 
• ผิวอิ่มน้ำ กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
• ผิวยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี

Fact ที่ทำให้เราควรทำ Radiesse เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน

ร่างกายเสียคอลลาเจนลงทุกวัน  ทำให้ผิวหย่อนตัว และมีร่องริ้วรอย จึงต้องเติม CaHA เพื่อกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจน + เป็นเสาเข็มให้เซลล์ผิวใหม่มีที่ยึดเกาะ = ผิวกระชับ เต่งตึง และมีโครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ในเรื่องวอลลุ่มผิวสามารถเห็นผลได้ทันที หลังจากนั้น 1 เดือน ผิวจะฟูกระชับดูสุขภาพดี ให้ผลลัพธ์อยู่นาน 2 ปี อยากทำความรู้จัก Radiesse ให้มากขึ้นกว่านี้คลิก

"ดังนั้น Radiesse จึงเหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มผิวทันที และต้องการเพิ่มคอลลาเจนในการฟื้นฟูผิวตามโครงสร้างผิวใหม่ที่แพทย์ดีไซน์เพื่อแก้ไขวอลลุ่มผิวที่หายไป"

สรุปแล้ว Filler, Sculptra และ Radiesse ต่างกันยังไง

 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Call Center : +66 2 714 9555

Whatsapp : +66 96 116 0806

Facebook : SLCclinic

Skype : SLCclinic

LINE : @SLCclinic