สาวๆหน้าอกมินิต่างก็สะเทือนใจทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า อกไข่ดาว แผ่นกระดาน ลูกเกด หรือ LCD คำเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นคำต้องห้าม!! ที่สาวๆอกเล็กไม่อยากจะได้ยินเลยใช่ไหมคะ? จากที่สาวๆอกมินิ ทำการเสริมหน้าอกกันจากภายนอก เช่น สวมเสื้อชั้นในดันทรง ฟองน้ำเสริมหน้าอก แต่ถ้าโดนล้อว่า "อกไข่ดาว" บ่อยๆเข้า จากเรื่อง(อก)เล็ก ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้ จนขนาดที่ว่าสาวๆ อกมินิหลายๆ ท่านมีความคิดที่จะ เริ่มหาที่ทำ “ศัลยกรรมเสริมหน้าอก” แต่ก็ด้วยกำลังทรัพย์ของแต่ละท่าน ที่เป็นข้อแตกต่างในการตัดสินใจเลือกสถานที่เพื่อทำ “ศัลยกรรมเสริมหน้าอก”
วันนี้ SLC มีสิ่งทุกท่านควรรู้เกี่ยวกับ "ซิลิโคนเสริมหน้าอกทีไ่ด้มาตรฐานอย่างแท้จริง!! เป็นอย่างไร?" ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการประกอบการตัดสินใจที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับร่างกายของเราค่ะ
ชนิดของซิลิโคนเสริมหน้าอก
ในปัจจุบันมีเต้านมเทียมที่ได้รับการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกาอยู่ 2 ชนิดคือ แบบถุงน้ำเกลือ และแบบซิลิโคนเจล โดยทั้งสองแบบจะมีเปลือกหุ้มเป็นซิลิโคนเหมือนกันต่างกันแต่เพียงวัสดุที่อยู่ภายในว่าจะเป็นน้ำเกลือหรือซิลิโคนเจล เต้านมเทียมแบบซิลิโคนจะเป็นที่นิยมมากกว่า เพราะรับสัมผัส ความยืดหยุ่น และรูปร่างเมื่อเสริมแล้วจะใกล้เคียงเต้านมธรรมชาติมากกว่า
รูปทรงของซิลิโคนเสริมหน้าอก
ทรงของซิลิโคนเสริมหน้าอก จะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ 1. ถุงซิลิโคนทรงกลม 2.ถุงซิลิโคนทรงหยดน้ำ ซึ่งท่านสามารถเลือกทรงของหน้าอกได้ตามความต้องการ
ความปลอดภัยที่การันตีคุณภาพของซิลิโคนเสริมหน้าอก
ซิลิโคนเสริมหน้าอกในท้องตลาดมีอยู่มากมายหลายชนิด และมาจากผู้ผลิตหลายประเทศ แต่มีเพียงแค่สองบริษัทที่มีข้อมูลการศึกษาความปลอดภัยในมนุษย์ที่นานพอ (นานเกินกว่า10ปี) และได้รับรองคุณภาพจาก U.S. FDA (องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา) คือ บริษัท Allergan และ Mentor ซึ่งทาง FDA ได้พิจารณาจาก การศึกษาติดตามผู้ป่วยกลุ่มใหญ่เป็นระยะเวลานาน และการตรวจมาตรฐานการผลิตของโรงงานในปี 2011 ทาง FDA ได้รายงานสรุปคำแนะนำสำหรับประชาชนก่อนได้รับการผ่าตัดใส่เต้านมเทียม ดังนี้
-
แนะนำให้ผ่าตัดใส่เต้านมเทียมในผู้หญิงที่อายุ22ปีขึ้นไป
-
ระยะเวลาที่ใส่ยิ่งนานจะยิ่งมีโอกาสเกิดปัญหาที่ทำให้ต้องผ่าตัดเพื่อเอาออกหรือเปลี่ยนได้ และผู้ที่ใส่เต้านมเทียมควรจะต้องตรวจเต้านมเป็นระยะไปตลอดชีวิต
-
ปัญหาแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุดคือการที่เกิดพังผืดรัดรอบเต้านมเทียม(capsular contracture), การรั่วซึมของเต้านมเทียม,การเกิดรอยย่นของเต้านมเทียม, การไม่สมมาตรของเต้านม, แผลเป็นและการติดเชื้อ ซึ่งโอกาสเกิดปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งมีประมาณ20%ภายในระยะเวลา10ปี
-
การศึกษาจนถึงปัจจุบันไม่พบว่าการใช้เต้านมเทียมเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งเต้านมหรือการเกิดโรคเนื้อเยื่อผิดปกติ(connective tissue disorder),หรือข้ออักเสบรูมาตอยด์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามไม่มีการศึกษาใดมีคนไข้จำนวนมากและติดตามได้นานเพียงพอที่จะบอกได้อย่างแน่นอนว่าจะไม่เกิดปัญหาเหล่านี้
-
แนะนำให้ผู้ที่ใส่เต้านมเทียมแบบซิลิโคนเจลตรวจเต้านมด้วย MRI เพื่อดูการรั่วซึมซึ่งมักไม่มีอาการแสดงทุกสองปี